“สมเกียรติ”เผาซากการเมืองเก่า-ชำแหละ“เลี้ยบ”ตัวเก็งเบอร์ 1 นายกหุ่นเชิด

“สมเกียรติ”ชี้ได้เวลาเผาซากศพการเมืองเก่า พันธมิตรฯ เตรียมออกแถลงการณ์ทำความชัดเจนการเมืองใหม่อีกครั้ง ย้ำการเมืองจากนี้ไปต้องเพื่อคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ของเฉพาะกลุ่ม คาด 6 พรรคร่วม โหวต “เลี้ยบ”นั่งนายกฯ ทั้งที่ก่ออาชญากรรมให้ชาติเสียหายไว้มากมาย ทั้งเรื่องแปลงสัมปทานมือถือ หวยบนดิน แทรกแซงบอร์ดแบงก์ชาติ คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย เมื่อเวลา 22.56 น. วันที่ 13 ก.ย. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล เริ่มต้นด้วยการสดุดีการทำหน้าที่ของการ์ดอาสาที่ช่วยปกป้องพี่น้องพันธมิตรฯ ในวันที่ตำรวจเข้ามาสลายการชุมนุมในวันที่ 29 ส.ค. และวันที่ 1 -2 ก.ย. ที่กลุ่ม นปก.ยกพวกเข้ามาทำร้าย ซึ่งทำให้การ์ดอาสาได้รับบาดเจ็บไปหลายคน นอกจากนี้คนอีกกลุ่มหนึ่งที่สมควรจะได้รับคำสดุดีคือนักรบศรีวิชัยรุ่น 2 ที่เดินทางไปยังสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ซึ่งเป็นวันที่พันธมิตรฯ เป่านกหวีดใหญ่เคลื่อนทัพ โดยนักรบศรีวิชัยเหล่านั้นหลายคนยังถูกจำคุกอยู่ และตนเพิ่งได้ไปเยี่ยม นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ไปจะไม่มีการพูดถึงการเมืองเก่าอีกแล้ว โดยขณะนี้แกนนำพันธมิตรฯ กำลังเตรียมแถลงการณ์เกี่ยวกับการเมืองใหม่ออกมาเป็นฉบับที่ 2 เพราะฉบับแรกที่ออกมายังไม่จุใจ อย่างไรก็ตาม จะยังไม่ได้ระบุว่า เราต้องการรัฐบาลแบบไหน ส่วนฉากบนเวทีปราศรัยก็จะเปลี่ยนใหม่ ไม่ให้มีเฉพาะรูปของ 5 แกนนำ แต่จะเอาทุกคนมาขึ้น จะเก็บประวัติศาสตร์ของ 5 คนเอาไว้ แล้วเอาประวัติศาสตร์ของคนเป็นล้านๆ ขึ้นมาแทน เพราะจากนี้ไปการเมืองจะเป็นการเมืองของคนเป็นล้านๆ คน ไม่ใช่การเมืองของ 5 คน หรือคนเฉพาะกลุ่ม และต้องเป็นการเมืองที่ยกระดับความสุขของปวงชนชาวไทยทุกคน นายสมเกียรติกล่าวถึงนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีว่า คงจะไม่พูดถึงอีกแล้ว เพราะถือว่าต้องให้เกียรติคนที่จากไป เหมือนคนที่ตายแล้ว กำลังเข็นศพมาที่หน้าเมรุ ก็จะอ่านแต่เรื่องดีๆ ให้เป็นครั้งสุดท้าย ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารในปัจจุบันถือว่าเน่าเฟะ สุนัขจิ้งจอกหอกหักกลายเป็นซากเน่าทางการเมืองไปแล้ว ขณะที่รัฐสภาก็ใกล้จะเป็นซากเน่าแล้ว เพราะการประชุมเมื่อศุกร์ที่ผ่านมา ไม่สามารถหาคนมาเป็นนายกฯ คนใหม่ได้ ทั้งๆ ที่มี ส.ส. 480 คน คนดีๆ มีเป็นร้อยๆ แต่พวกเขาไม่เลือก กลับไปจัดแถวคนที่ชั่วร้ายที่สุดแล้วเลือกเอามา อย่างนี้จะเป็นสภาได้อย่างไร นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า ในฐานะที่ได้รับเลือกตั้งมา ไม่ได้ปฏิเสธระบอบรัฐสภาทั้งหมด แต่ปฏิเสธรัฐสภาที่มาจากการโกงเลือกตั้ง พรรคการเมืองตอนนี้ส่วนใหญ่เรามีไว้ถูกยุบ เพราะมีแต่การโกงเลือกตั้งซึ่งเป็นอาภรณ์ประดับการเลือกตั้งของประเทศไทยอย่างมั่นคงตลอด 20 ครั้งที่ผ่านมา แล้วตอนนี้มีการทุ่มหนัก พรรคไหนจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ขึ้นอยู่กับการลงขันของนายทุน ส.ส.ที่ได้มาจึงเป็นผู้แทนทาสของนายทุน แล้วจะลงมติเพื่อประชาชนได้อย่างไร "ถ้าพ่อเขาไปลงทุนเกาะกง เขาก็ต้องโหวตเพื่อยกเขาพระวิหารให้กัมพูชา เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของพ่อเขาที่เกาะกง" นายสมเกียรติกล่าว และว่า นรกที่มีอยู่ 4 ชั้นนั้น ส.ส.บ้านเราต้องไปอยู่ชั้นต่ำสุด นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า มีเวลาอีก 4 วัน ที่พรรคร่วมรัฐบาลจะเลือกนายกฯ คนใหม่ ซึ่งคราวที่แล้ว พวกเขาไม่เข้าร่วมประชุม ทำให้มีคน ๆ หนึ่งต้องหายใจแผ่วๆ และถูก ส.ส.อีสาน 3 คนจูงมืออกมา เหมือนจูงซากศพออกมาเตรียมขึ้นสู่เมรุ และทำให้สภาเกิดความอับอาย บรรดา ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลมองเข้าไปในห้องประชุมสภา แล้วก็ไม่ยอมเข้า แต่พอพรรคประชาธิปัตย์เข้าประชุมและเสนอชื่อนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ก็รีบเข้ามาเสนอปิดประชุม เพราะกลัวพรรคประชาธิปัตย์จะเสนอได้ สำหรับการประชุมสภาเพื่อเลือกนายกฯ ในวันพุธที่ 17 ก.ย.นี้ นายสมเกียรติ กล่าวว่า ใน "3 ส." ที่เป็นตัวเก็งนายกรัฐมนตรีนั้น คาดว่า พรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมฯ จะเลือก น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นอันดับแรก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เอาไว้เป็นตัวเลือกที่ 2 และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นตัวเลือกที่ 3 ซึ่งในความเห็นของพวกเราถือว่าไม่ไหวทั้งหมด นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า หากประเทศไทยโชคร้ายจริงๆ วันที่ 17 ก.ย.นี้ ส.ส.ในสภาจะเลือก น.พ.สุรพงษ์ เป็นนายกฯ ซึ่งคงต้องถามนายแพทย์อาวุโสท่านหนึ่งที่เคยสอน น.พ.สุรพงษ์มา นั่นคือ ศ.ประเวศ วะสี ให้ท่านช่วยแสดงความคิดเห็นต่อลูกศิษย์คนนี้ด้วยว่าไหวหรือไม่ นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า นายแพทย์คนนี้เคยเป็น ผอ.โรงพยาบาล แต่ก็มาเป็นคนรับใช้มาเฟียแห่งเขากระโดงอาชญากรรมที่เขาก่อไว้ร้ายกาจมาก จึงขอพูดถึงว่าที่นายกฯ ของประเทศไทยที่กำลังจะโชคร้ายที่สุดว่า 1.เป็นแพทย์ 2.รักษาคนดีไม่ได้ชอบรักษาคนที่โกง การทำงานของเขาที่เราควรจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ คือ การรับใช้ระบอบทักษิณในฐานะแพทย์แต่ไปคุมกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กิจกรรมแรกที่เขาทำคือออกกฎหมายเพื่อแปลงค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือที่จะต้องจ่ายให้รัฐจำนวนมหาศาล โดยไปแก้ว่าไม่ต้องจ่าย แต่ให้จ่ายเป็นภาษีสรรพสามิตแทน ทำให้รัฐเสียหาย 66,000 ล้านบาท ตอนนี้คดีกำลังเข้าสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองแล้ว เพราะนี่คือการปกป้อง "พ่อ"ของเขาให้ร่ำรวยในการขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้เทมาเสก 7.3 หมื่นล้านบาท เราควรยอมให้คนๆ นี้เป็นนายกฯ หรือไม่ อาชญากรรมอันที่ 2 น.พ.สุรพงษ์ตกเป็น 1 ใน 47 ผู้ต้องหาในคดีหวยบนดิน ที่สร้างความเสียหายประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาท หลังจากนั้น เมื่อมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับ"โกร่งกร่างคางคก" ที่ทำบริษัทสัมพันธ์ประกันภัยเจ๊ง และกำลังถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย 441 ล้านบาท นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า นายแพทย์คนนี้เมื่อมาเป็น รมว.คลังยังไปแตะบอร์ดแบงก์ชาติ จะเอาคนที่ทุจริตรับเช็คจากบริษัทเอกชน 30 กว่าล้านบาท เป็นคดีอยู่ที่ศาลอาญาแล้ว มาเป็นบอร์ด นายกแบบนี้จะเอาหรือไม่ นอกจากนั้นแล้วเขายังเป็น 1 ในแก๊งออฟโฟร์ อยู่ในกลุ่มเดียวกับนักการเมืองฉายายี้ห้อย และหน้าห้องอดีตนายกฯ นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตรวจสอบกรณีที่นายแพทย์สุรพงษ์และภรรยาปกปิดหุ้นอีกด้วย เมื่อประมวล 3-4 เรื่องนี้ ก็เพียงพอที่เราไม่อาจยอมรับว่าที่นายกฯ ของประเทศที่โชคร้ายนี้ "ที่พูดมานี้คือการเมืองเก่า คือการย้ายซากศพจากศาลาพักศพมาสู่เมรุเพื่อเผา เอาซากศพมาฌาปณกิจ เราจะไม่พูดถึงความดีของการเมืองเก่าแล้ว และวันพรุ่งนี้จะมาแฉคนที่เป็นหมายเลข 2 ที่จะมาเป็นนายกฯ ต่อไป" นายสมเกียรติกล่าว

ที่มา:http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000108725
โพสโดย:นางสาว ศิริกานต์ ทองเครือมา ID5131601184 SEC1