วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2551

แนวร่วมพันธมิตรฯรวมตัวฟ้องอาญา-แพ่งกรณีปะทะกับตำรวจ-นปช.

ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาลยังคึกคัก ขณะที่แนวร่วมทยอยมอบอำนาจให้ทนายความฟ้องอาญาและแพ่ง กรณีปะทะกับตำรวจและ นปช. ช่วงที่ผ่านมา บรรยากาศการชุมนุมที่บริเวณรอบนอกทำเนียบรัฐบาล ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งได้ให้ความสนใจกับผ้าดิบที่วางพาดกลางถนน ตั้งแต่แยกมิกสวันจนเกือบถึงหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. ระยะทางกว่า 100 เมตร โดยได้พากันมาอ่านข้อความที่มีการเขียนบรรยายความรู้สึกทางการเมือง และยังคงมีการตั้งร้านจำหน่ายสินค้าสำหรับใช้ในการชุมนุม รวมถึงเต็นท์ประกอบอาหารสนับสนุนผู้ชุมนุม ซึ่งแม้สภาพอากาศวันนี้จะค่อนข้างร้อนจัด แต่ก็มีผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมาสลับสับเปลี่ยนกันต่อเนื่องทั้งวัน นอกจากนี้ ที่กองอำนวยการกองทัพธรรม ได้มีแนวร่วมพันธมิตรฯทยอยเดินทางมาทำหนังสือมอบอำนาจให้ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ ฟ้องดำเนินคดีอาญาและแพ่งแทน อาทิ นายวุฒิชัย คำเหลา ชาวจังหวัดชัยภูมิ และนางสาวหนูรงค์ รัตนวิเชียร ชาวจังหวัดสงขลา ที่ระบุว่าได้รับบาดเจ็บตามร่างกายและแก๊สน้ำตาจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างการปิดหมายบังคับคดีศาลแพ่งให้พันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้านเจ้าหน้าที่กองทัพธรรม เปิดเผยว่า จนถึงวันนี้มีผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว มาทำหนังสือมอบอำนาจให้ทนายความแล้ว 66 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บจากการปะทะกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 2 กันยายน ได้มอบอำนาจให้ทนายความแล้ว 2 ราย แต่บนเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้มีการประกาศให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากกรณีการปะทะกับ นปช. มาทำหนังสือมอบอำนาจให้ทนายความเพิ่มเติมด้วย.

ที่มา: http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=223303&ch=pl2


โพสต์โดย: นางสาวชาลินี เอี่ยมโอน ID: 5131601043

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

การที่จะใช้กำลังเข้าต่อสู้กันไม่ได้ทำให้เหตุการณ์มันดีขึ้นควรหันมาพูดคุยกันด้วยเหตุและผล และควรที่จะยอมลงให้แก่กันบ้าง เพราะถ้าต่างคนต่างที่จะแรงเข้าหากันแล้วปัญหามันจะยิ่งลุกลาม