วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551

“ในหลวง” ทรงแนะตุลาการศาลปกครองทำหน้าที่ซื่อสัตย์-เป็นตัวอย่างคนทำดี



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ประธานศาลปกครองสูงสุด นำตุลาการศาลปกครองชั้นต้น เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ในการนี้ทรงมีพระบรมราโชวาทให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของประเทศชาติ และเป็นตัวอย่างสำหรับคนที่จะทำดีต่อไป

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่คณะตุลาการศาลปกครองชั้นต้น



เมื่อเวลา 17.27 น.วันนี้ (15 ก.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด นำตุลาการศาลปกครองชั้นต้นเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ในโอกาสนี้ นางสาวพรทิพย์ ทองดี เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย

ในการนี้ ได้มีพระบรมราโชวาทให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของประเทศชาติ และเป็นตัวอย่างแก่ประชาชนทั่วไป

“ข้าพเจ้ายินดีที่ได้ฟังท่านผู้เป็นผู้พิพากษาศาลปกครอง ซึ่งได้ทำการปฏิญาณตนว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อความร่มเย็นของประเทศชาติ การจะปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตนั้นสำคัญ เพราะว่าประชาชนต้องการความซื่อสัตย์สุจริต แล้วถ้ามีผู้ที่ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตนั้น ก็ทำให้สบายใจ และสามารถที่จะปฏิบัติงานต่างๆ ของประชาชนได้โดยดี ท่านก็จะต้องปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตย์สุจริตดังกล่าวนี้ เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของประเทศชาติ

ท่านมีจำนวนไม่มากนัก แต่ว่าก็นับว่าเป็นจำนวนที่สำคัญ เพราะว่าท่านมีความรู้ ท่านสามารถที่จะแสดงความรู้นี้ และทำให้ประชาชนดูผู้ที่ปฏิบัติดีเป็นตัวอย่าง ในเวลาเดียวกัน ท่านก็เป็นตัวอย่างกับผู้ที่ทำหน้าที่ต่อไปด้วย ฉะนั้น ที่ท่านได้ปฏิญาณตนเป็นสิ่งที่สำคัญ ต้องปฏิบัติตามที่ท่านปฏิญาณ ถ้าไม่ได้ปฏิบัติตามที่ท่านปฏิญาณ ก็ทำให้คนเขาเสียใจ คนผิดหวัง ถ้าคนผิดหวัง เป็นอันตรายมากสำหรับการปกครองประเทศ และความเป็นอยู่ของประเทศ

ก็ขอให้ท่านได้ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ท่านได้ตั้งเอาไว้แก่ตัว เพื่อที่จะให้เป็นตัวอย่าง เพื่อที่จะให้ทุกคนมองว่า มีผู้ที่ปฏิบัติตัวด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเป็นธรรมดา เป็นธรรมดานี้แหละสำคัญ เพราะว่าแสดงว่าท่านทำความซื่อสัตย์สุจริต เป็นสิ่งที่เป็นธรรมดาสำหรับผู้ที่มีหน้าที่ ทำให้ผู้ที่เป็นประชาชนทั่วๆ ไป ก็จะได้ทำงานอะไรด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ถือว่าเป็นหน้าที่เหมือนกัน ก็ขอให้ท่านเข้าใจที่พูดนี้ว่า สำคัญแค่ไหน ถ้าท่านเข้าใจและปฏิบัติ ท่านจะเป็นผู้ที่ได้ช่วยประเทศชาติอย่างดี ได้ทำหน้าที่สำหรับเป็นตัวอย่าง ทำหน้าที่สำหรับเป็นผู้ที่เรียกว่า คนดี และก็ได้ทำหน้าที่ด้วยความดี เพื่อที่จะมีคนที่ดี ท่านมีจำนวนไม่มาก แต่เมื่อผู้ที่ได้เห็น ได้ทำตาม มีจำนวนเป็นหลายร้อย หลายพัน เป็นหลายหมื่น หรือถ้าทุกคนทำตาม ทำหน้าที่ตามวิธีที่ท่านทำ บ้านเมืองคงอยู่รอดได้ ไม่มีปัญหา”



credit : www.manager.co.th
update by : Kotchakorn Sunthikhunakorn 5131601001



3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ในเมื่อคุณเป็นข้าราชการ ทำงานเป็นตัวแทนของประชาชน ก็ควรจะซื่อสัตย์ ต่อประชาชน ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ใช่เช้าชามเย็นชาม เหมือนข้าราชการไทยทุกวันนี้นะครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ระบบราชการไทย จะดีขึ้น หรือจะแย่ลง ... หรือคงสภาพเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ??

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สังคมจะขับเคลื่อนไปได้ ก็ต้องอาศัยบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ "อย่างแท้จริง" !