วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551

"สุเทพ"แนะตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ดึงทุกภาคส่วนร่วมวง ครม.

เลขาธิการปชป.เห็นด้วยหากจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ แนะดึงบุคลากรจากทุกภาคส่วนร่วมคณะรัฐมนตรี หนุน "สมชาย" นั่งนายกฯ ไม่เกี่ยวกับภาคนิยม เชื่อ พปช.ยังระอุแบ่งขั้วชัดเจน จับตาประชุมสภา 17 ก.ย.นี้ วันนี้ (15 ก.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชน มีการประชุมพรรคเพื่อลงมติเลือกบุคคลที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีต่อรัฐสภาในวันที่ 17 ก.ย.นี้ ว่า ตนคิดว่าในพรรคร่วมรัฐบาลคงจะยังมีปัญหาอยู่ และยังมีความเห็นแตกต่างในเรื่องตัวบุคคล แต่หากตกกันได้ก็คงจะได้เสนอชื่อในวันพุธนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช และนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย มีแนวโน้มภายในพรรคว่าสนับสนุน นายสมชายเนื่องจากมีความเหมาะสม รวมทั้งเป็นคนภาคใต้ สามารถร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ได้ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่จริง ในความรู้สึกของประชาชนทั่วไปจะเป็นใครก็แล้ว แต่หากมาจากพรรคพลังประชาชน หรือมาจากรัฐบาลเดิมทั้งชุด ประชาชนก็ไม่เชื่อว่าจะมาสร้างความสามัคคีในชาติได้ หรือลดปัญหาความขัดแย้งอย่างทีเกิดขึ้นทุกวันนี้ได้ “เรื่องของคนภาคใต้ คนใต้มีเหตุผลทางการเมืองใช่ว่าเขาเป็นภาคใต้แล้วต้องสนับสนุน ดูนายวีระ (มุสิกพงษ์) วันนี้สิ คนภาคใต้รู้สึกอย่างไรกับนายวีระ เพราะฉะนั้นกรณีของคุณสมชาย เพียงสื่อมวลชนมาถามผมให้วิจารณ์ว่า ในสามคนเป็นอย่างไร ผมก็วิจารณ์ไปตามเนื้อผ้าที่เห็น ตามความรู้สึกของประชาชนทั้งหลาย เท่าที่ผมได้สัมผัสไม่ได้หมายความว่าผมไปสนับสนุนคุณสมชาย”นายสุเทพกล่าว เมื่อถามว่า คิดว่า เวลานี้ยังมีแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือไม่ เพราะนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคเอง ระบุว่าบ้านเมืองขณะนี้ยังไม่วิกฤตพอที่จะตั้งรัฐบาลแห่งชาติ นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าสมมติว่านายสมชายได้เป็นนายกฯจริงและจะเอาแนวความคิดเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลรูปแบบพิเศษก็เป็นเรื่องดี แต่ไมได้หมายความว่า พรรคประชาธิปัตย์ตั้งใจเข้าไปร่วมเป็นรัฐบาลด้วย แต่เป็นรัฐบาลพิเศษที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านก็ได้ คำว่ารูปแบบพิเศษของตนหมายความว่า อย่าเอาเฉพาะนักการเมือง ที่มาจากพรรคต่างๆมาร่วมเป็นคณะรัฐมนตรี แต่ให้ดึงบุคคลที่อยู่นอกพรรคการเมือง นอกสภา กลุ่มพลังต่างๆ มาร่วมแก้ปัญหาวิกฤตของชาติ ส่วนที่นายสมชายได้แสดงอำนาจการบริหารด้วยการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน คิดว่าทำให้กระแสต้านลดน้อยลงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่า ในแง่ความรู้สึกของคนดีขึ้น นายสมชายจะตั้งใจหาคะแนนเสียงหรือไม่ แต่คิดว่าครั้งนี้นายสมชายได้คะแนนเสียง และการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้ถือว่านายสมชายได้แต้มทางการเมือง และลีลาท่าทีที่ ออกมาพูดกับประชาชนดูสุภาพอ่อนโยน ไม่ยโสโอหังเหมือนผู้นำคนอื่น ซึ่งตนคิดว่าดูดี อาจทำให้อุณหภูมิทางการเมืองลดลง บรรยากาศความตึงเครียดดีขึ้น แต่วิกฤติการเมืองวันนี้กว้างใหญ่กว่านั้น ความเห็นของคนในประเทศไทยที่มีความคิดแตกแยกมากเกินกว่าแค่ใช่ยาขนานเดียวรักษาได้หมด เมื่อถามย้ำว่า มีการประเมินหรือไม่ว่ารัฐบาลใหม่จะอยู่ได้นานเท่าใด นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เมื่อใด จะขึ้นได้จริงหรือไม่ อย่าพึ่งประเมินดีกว่า เพราะยังไม่แน่นอน ตราบใดที่ผู้ที่กุมเสียงข้างมากในสภา ยังตกลงกันไม่ได้ ความไม่แน่นอนก็ยังมีอยู่เสมอถึงแม้ในพรรคพลังประชาชนแนวโน้มที่จะสนับสนุนนายสมชายเป็นนายกฯก็ตาม แต่เท่าที่ตนฟังยังเห็นว่าเขายังมีความแตกแยกกันอยู่ และเป็นธรรมดาที่การต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาลยังมีอยู่ต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกลุ่มพันธมิตรฯออกมาเสนอแนวทางการเมืองโดยให้อำนาจตุลาการยุบสภา เหลือเฉพาะ ส.ว.เพื่อให้มาวางกติกาการเมืองกันใหม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เขามีสิทธิ์เสนอแนวคิดเห็นทางการเมือง ซึ่งทุกฝ่ายก็มีสิทธิ์เสนอได้ ส่วนฝ่ายอื่นจะเห็นด้วยหรือไม่เป็นอีกเรื่อง ตนไม่สามารถวิจารณ์แนวการเมืองของพันธมิตรฯได้ เพราะยังขาดรายละเอียดอีกมาก


ที่มา:http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000109339
โพสโดย:นางสาว ศิริกานต์ ทองเครือมา ID:5131601184 SEC1

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

การที่ดึงทุกคนมาร่วมมือกันแก้ไขเป็นเรื่องที่ดี ถ้าจะมีความเห็นต่างก็แย้งกันด้วยเหตุและผลจะได้ไม่เกิดการแตกแยกกันขึ้นมา