วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551

กันยาฯทมิฬ เปิดฉาก ??



"ความถ่อย...ความเถื่อน... ของแก๊งนรกป่วนกรุง(นปก) ที่ออกอาละวาดโจมตีรัฐบาลในยุค คมช.ยังคงเป็นสิ่งที่ประชาชนจดจำได้ติดตา กับการเข้าสลายม็อบ นปก.หน้าบ้านป๋าเปรม เมื่อ 22 ก.ค. 50 ที่ตำรวจใช้ความรุนแรงทั้งทุบ ตี ด้วยกระบอก ยิงแก๊สน้ำตามุ่งเป้าต้องสลายให้ได้ การเข้าสลายม็อบ นปก.ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ารุกจู่โจมยิงแก๊สน้ำตา ถึง 3 ครั้ง เนื่องจากกลุ่ม นปก.ป่วนเมืองต่อสู้ ต่อต้านโดยการทำลายทรัพย์สินหน้าบ้านป๋า ใช้อิฐตัวหนอนปาหัวตำรวจ ใช้เหล็กใช้ไม้เข้าห่ำหั่น เพื่อต้านกำลังตำรวจที่เข้าสลาย แต่ในที่สุดกลุ่มผู้ชุมนุม นปก.ก็พ่ายแพ้แตกกระเจิด กระเจิงไปกันคนละทิศ ละทาง โดยแกนนำ นปก.ในครั้งนี้มี "วีระ มุสิกพงศ์ - ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ - จตุพร พรหมพันธ์ - จักรภพ เพ็ญแข" พาประชาชนเข้าบุกบ้านสี่เสาเทเวศน์

แต่ ณ วันนี้เวลาผ่านมากว่า ขวบปี ขวบเดือน กลุ่มเถื่อน นปก. กลับเปรียบเหมือนโจรที่นั่งเรือ มีฝีพายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ทรงเกียรติ พายเรือให้โจร นปก.นั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหลาย คงจะลบเลือน ลืมเลือน กับเหตุการณ์ที่เคยเข้าสลายม็อบ นปก.ไปแล้ว อย่างสิ้นเชิง ถึงได้ยืนยิ้มกริ่ม สนุกสนาน สดชื่นกับดอกไม้ได้ที่รับจากกลุ่มม็อบถ่อย นปก.ผู้ที่เคยสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองเมื่อกว่า 1 ปีที่ผ่านมาได้หมดสิ้น

ล่าสุด แก๊งนปก.เริ่มปฏิบัติการ ด้วยการเคลื่อนจากทท้องสนามหลวง ผ่านสะพานผ่านฟ้า มายังบริเวณแยกจปร. แต่เป็นที่น่าแปลก เพราะเมื่อแก๊งเถื่อนเคลื่อนมายังแยกจปร. ตำรวจกลับปล่อยให้ผ่านไปยังบริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติได้อย่างสบายๆ จนเกิดการเผชิญหน้ากันของทั้งสองฝ่าย จากนั้น ก็มีเสียงปืนดังขึ้น 4-5 นัด เหตุการณ์ก็เริ่มชุลมุนวุ่ยวาย และยากต่อการที่ตำรวจจะเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

ผู้สื่อข่าวบอกว่า ตำรวจปล่อยให้แก๊งนปก. ผ่านแจกจปร.เข้าไปโดยมิได้ทัดทาน หรือห้ามปราม จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น!!!

การปะทะดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นหากตำรวจเอาจริงเอาจังมากว่านี้ แต่ก็นั้นแหละ ตำรวจก็คือ ผู้พิทักษ์รับใช้รัฐบาล ที่อำนาจการสั่งการอยู่ในเงื้อมมือ

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนนับสิบราย และมีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 นาย ขระที่อีก 1 รายถูกยิงเข้าทรวงอก อาการสาหัส

ก่อนหน้านี้ 3 เกลอหัวแข็ง ประกอบด้วย วีะ -จตุพร -ณัฐวุฒิ ออกมาจ้อทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เป็นครั้งแรก หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯไปทวงถามถึงความคุ้มค่าเกี่ยวกับเงินภาษีของประชาชนที่จ่ายให้กับกรมประชาสัมพันธ์ โดยการออกมาจ้อของ 3 เกลอหัวแข็ง เสมือนหนึ่ง เป็นการส่งสัญญาณก่อให้เกิดความรุนแรงดังกล่าวเกิดขึ้น

"สมัคร สุนทรเวช" ในฐานะนายกรัฐมนตรี ไปอยู่เสียที่ไหน จึงปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น อย่ามาอ้างเป็นอย่างอื่นเพื่อเป็นการลอยตัวแก้ปัญหา

หรือว่า สาเหตุที่"สมัคร"ไม่ยอมแพ้ ก็เพราะธาตุแท้ กระหายเลือดนั่นเอง!!






รัฐบาลชุดนี้นอกจากจะอัปลักษณ์อย่างที่ตัวนายกพูดเองยังไม่พอ
ยังมีจิตใจเหี้ยมโหดผิดมนุษย์มนา ไม่รู้อะไรผิดชอบชั่วดี
คิดแต่ว่า ... ทำอย่างไรตนเองจะชนะได้
โดยไม่สนว่าประเทศชาติบ้านเมืองจะบอบช้ำ

ถึงตอนนี้แล้วข้าพเจ้านึกถึงใครบางคนที่บอกว่า
อย่าไปร่วมเลย ประท้วงกันทำไม อายเค้า ...

พันธมิตรชุมนุมกันอย่างสันติ ตามกฎหมายที่ให้ไว้ว่าสามารถจะมีการชุมนุมกันได้
แล้ว นปก. ที่ย่อมาจาก "แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ" นั้น
จริงๆแล้ว ... เป็นแนวร่วมประชาธิปไตยจริงๆหรอ
เป็นแนวร่วมของคนที่มีปัญญา วิเคราะห์และสังเคราะห์ได้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี สมดังชื่อหรือเปล่า

แท้จริงแล้วเราควรเปลี่ยน ความหมายของ นปก. เป็น "แนวร่วมเป็นกบฎ" คงจะเหมาะสมกว่า
เพราะดูจากการกระทำแล้ว ... นี่ไม่ใช่วิถีของประชาธิปไตย
แต่การที่ ไม่ถูกใจตัวเองแล้วใช้กำลังนี่นะ ... มันเป็นทางแก้ปัญหาของคนโง่
และ เผด็จการ ใครแข็งแรงกว่าก็อยู่รอด ใครอ่อนแอก็ต้องอยู่ภายใต้การปกครอง
สมัยนี้ มันหมดยุคแบบนั้นแล้ว ...

ข้าพเจ้าได้ค้นคว้าหาข้อมูลจากเว็บ wikipedia เกี่ยวกับ นปก.
และเมื่ออ่านดูแล ข้าพเจ้าคิดว่าเราควรจะเปลี่ยนเนื้อหาในวิกิพีเดียเสียใหม่
เพื่อไม่ให้เป็นการเข้าใจผิด ... แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ
แต่การกระทำมันไม่ดีสมชื่อ

ข้าพเจ้าขออนุญาตคัดลอกบางส่วนของวิกิพีเดียลงมา





"แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือเดิม แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) เป็นการรวมตัวกันขององค์กรต้านรัฐประหารหลายองค์กร อาทิ

ทั้งนี้ ทางกลุ่มมีความพยายามที่จะใช้แนวทางสันติวิธี แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง โดยแต่ละองค์กรที่มาเข้าร่วมนั้นมีจุดยืนและเป้าหมายที่แตกต่างกัน บางส่วนต่อต้านรัฐประหารและต้องการทวงคืนประชาธิปไตย บางส่วนเรียกร้องให้พตท.ทักษิณกลับมาเป็นนายกฯและทวงคืนอำนาจรัฐ น้ำหนักที่ประเมินต่อพตท.ทักษิณ อาจจะแตกต่างกัน แต่จุดร่วมเดียวกันคือต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพของประชาชนกลับคืนมา"





เท่าที่อ่านดู ... ท่านผู้อ่านจะเห็นด้วยกับข้าพเจ้าหรือไม่
ว่ามันสมควรจะเปลี่ยนที่ว่า สันติวิธีมันไม่จริงเลย ...
สื่อไทยก็ยังคงบิดเบือนความจริง ไม่ทราบว่าเพราะอะไร
หรือเพราะจะได้ดูดี เหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงอย่างที่จริง

ถ้าคุณเปิดข่าว ... คุณจะไม่มีทางเห็นภาพนองเลือด
จากช่องฟรีทีวี 3 5 7 9 ทั่วไป .. หรือแม้กระทั่งหนังสือพิมพ์คุณก็จะไม่มีทางเห็น

สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าก็ขอวิงวอนให้พกว นปก. สำนึกได้เร็วๆ (แต่ก็ไม่รู้ว่าจะสำนึกกันได้หรือเปล่า)
เศษเงินเพียงไม่กี่บาท ที่เค้าจ้างให้ใส่เสื้อแดงแล้วประท้วง นักเลงทั้งหลาย ถ้าไม่โดนจ้างมา พวกเขาจะมาได้อย่างไร เพราะแต่ละคนนั้น ก็เหมือนกับที่ cnn เสนอว่า from rural area ทั้งสิ้น
ประเด็น ที่เห็นชัด ก็คือ ... คนไทยยังคงเป็นวัตถุนิยม
และ ไม่ชอบเรียนหนังสือ เพราะเหตุการณ์บานปลายขนาดนี้ ก็ยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่า
อันไหน เราควรจะทำ หรืออันไหนไม่ควรจะทำ ??

หากสิ้นชาติไปแล้ว เศษเงินที่พวกคุณได้จากพวกมัน
ก็ไม่มีประโยชน์ ...

เมื่อไหร่ประเทศไทย จะไม่มีนักการเมืองเลว
ชุบมือเปิบอำนาจของประชาชน แล้วหน้าด้านไม่ยอมลงจากตำแหน่งเสียที
และหลังจากเหตุการณ์นี้ไป ก็คงสมใจ ได้ถูกบรรจุเข้าไปในหลักสูตรการศึกษาวิชาประวัติศาสตร์
จั่วหัวว่า "กันยาฯทมิฬ ภายในการปกครองของ รัฐบาลเผด็จการ สมัคร สุนทรเวช"




credit photo & news from : www.manager.co.th

written by : Kotchakorn Sunthikhunakorn 513 1601 001



you can watch ASTV by

www.astv-tv.com/
www.siamtv.com/start


6 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
หมดศรัทธาในตัวนักการเมือง หมดความเชื่อถือในตำรวจ ... ต้องระวังตนเอง..... สงสารพี่น้องพันธมิตร > !

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ชั่วสาดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
บุพการีสั่งสอนแล้วไม่จามมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เจ้านายเป็นอย่างไร ลูกน้องก็เป็นอย่างนั้น

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ควายบ้าพวกนี้จ้างเท่าไรเนี่ย
จะจ้างไปขวิดกับโจรใต้
ดูซิมันจะกล้าไหม

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

100,000 คน x 500 บ x 100 วัน = 5,000,000,000 บาท ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พรบฉุกเฉินไม่ชอบธรรมเพราะประกาศจากผู้ที่ไม่ชอบธรรมมุ่งทำลายประเทศชาติทำร้ายประชาชน มัครออกไป