วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ชะตาผู้นำพันธมิตร 9 คน!!

แผนการ "เป่านกหวีดเผด็จศึกรัฐบาลหุ่นเชิด" ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สร้างความวิตกกังวลด้านสถานการณ์การเมือง จนลามสู่ความหวาดหวั่นจะนำมาซึ่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
+++ หากรัฐบาลภายใต้การนำของ นายสมัคร สุนทรเวช "เป่านกหวีด" สั่งตอบโต้กลับกลุ่มพันธมิตร ด้วยมาตรการความรุนแรง ชนิด "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" ก็เชื่อได้ว่า "บ้านเมืองคงลุกเป็นไฟ" แน่
+++ สถานการณ์การเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายรัฐบาล กับ พันธมิตร ขณะนี้ ถือว่ารัฐบาลเป็นต่อ หลังฝ่ายพันธมิตรบุกเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาล จนศาลอาญาอนุมัติหมายจับกุม 9 แกนนำพันธมิตร ตามที่ตำรวจเสนอ
+++ ข้อหาหนึ่งที่ศาลอนุมัติหมายจับ และถือว่ารุนแรงมากก็คือ ข้อหากบฏ ซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113
+++ ต้องเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะชะตากรรมของ 1.นายสนธิ ลิ้มทองกุล 2.พล.ต.จำลอง ศรีเมือง 3.นายพิภพ ธงไชย 4.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 5.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 6.นายสุริยะใส กตะศิลา 7.นายอมร อมรรัตนานนท์ 8.นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และ 9.นายเทิดภูมิ ใจดี
+++ บุคคลเหล่านี้นอกจากจะถูก "ตราหน้า" ว่า เป็นกบฏในสายตารัฐบาลและตำรวจแล้ว ยังจะถูกดำเนินคดีตามมาอีกหลายข้อหา ประกอบด้วย เป็นผู้ใดสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการ หรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏ ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี ตามมาตรา 114
++ มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกแล้วไม่เลิก ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 215 และ 216
+++ ต้องรอดูท่าทีของ "มท.1-พล.อ.โกวิท วัฒนะ" ว่าจะสั่งให้ตำรวจปฏิบัติการอย่างไรต่อแกนนำพันธมิตรทั้ง 9 คน จะกล้า "เป่านกหวีด" ให้เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปจับกุมบุคคลทั้ง 9 กลางฝูงชนที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่
+++ เพราะขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมเองก็ได้เตรียมการ เพื่อป้องกันไม่ให้ตำรวจบุกเข้าไปจับกุมแกนนำพันธมิตร และสลายผู้ชุมนุมได้โดยง่าย โดยเฉพาะมีการระดมพลป้องกันตามประตูทางเข้าทำเนียบรัฐบาล
+++ มีการนำรถบรรทุกมาปิดกั้น นำรั้วเหล็กมามัดไว้ นำกำลังชายและหญิงมาเป็น "กำแพงมนุษย์" โดยให้ผู้หญิงอยู่แถวหน้า ผู้ชายอยู่แถวหลัง และยังมีนักรบศรีวิชัยและการ์ดถือไม้ เหล็กเส้น คุ้มกันอย่างแน่นหนา
+++กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมพร้อมรับมือตำรวจไว้เป็นขั้นเป็นตอน แน่นหนาอย่างนี้ มีหวังหากตำรวจทะเล่อทะล่า บุกเข้าไปจับกุมแกนนำพันธมิตร ได้เกิดเหตุปะทะกันแน่ๆ คิดแล้ว "น่าวิตก" อย่างยิ่ง
+++ ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตาม อยากให้นำเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ มาเป็น "บทเรียน" โดยเฉพาะเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ" ที่เกิดขึ้นในปี 2535 เมื่อเกิดเหตุจลาจลขึ้น ไม่มีฝ่ายไหนได้ มีแต่เสียกับเสียทั้งสิ้น
+++ มีเสียงยืนยันมาจากบิ๊กเหล่าทัพ ไม่ว่าจะเป็น "ผบ.สส.-พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์" หรือ "ผบ.ทอ.-พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข" การันตีว่า "ทหารจะเลือกอยู่ข้างประชาชน" พร้อมกันนี้ยังแนะรัฐบาลให้ใช้หลักทศพิธราชธรรม ในการแก้ปัญหา อย่าทำร้ายประชาชน
+++ การที่ ผบ.เหล่าทัพออกประกาศอย่างนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็น "ของแสลง" สำหรับคนชื่อ สมัคร สุนทรเวช หรือไม่ เพราะไม่เป็นไปอย่างที่นายกรัฐมนตรีเรียกร้อง ที่ต้องการให้ยื่นอยู่ข้างรัฐบาล
+++"แหลมเชิงดอย" ขอเป็นอีกคนหนึ่งที่ประกาศตัว "ไม่เลือกข้าง-ไม่ยืนข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง" ทั้งสิ้น แต่จะขอทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ยืนข้างประชาชน ยืนข้างความถูกต้อง โดยมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ เป็นหลัก
+++ ปิดท้ายกันที่ผลการสำรวจความรู้สึกของประชาชนเกี่ยวกับ "ทางออกฝ่าวิกฤติของประเทศไทย" ที่สำรวจโดย สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ซึ่งสำรวจประชาชนทั่วประเทศ 16 จังหวัด จำนวน 2,718 ตัวอย่าง
++ผลปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.4 กำลังกังวลว่า ความขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้จะทำให้สังคมไทยกลายเป็นสภาพบ้านป่าเมืองเถื่อน นอกจากนี้ยังพบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 61.3 กำลังเครียดต่อสถานการณ์การเมือง
+++ ส่วนทางออกฝ่าวิกฤติต่างๆ ของคนในชาติต่อปัญหาขัดแย้งกำลังเกิดขึ้นขณะนี้ ผลสำรวจพบว่า อันดับแรก ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.8 ระบุถึงความรักความสามัคคีของคนในชาติ รองลงมาคือร้อยละ 84.6 ระบุให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม ร้อยละ 81.7 อยากให้เจรจากันด้วยสันติ
+++ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.8 ยังคงมีความหวังว่าปัญหาขัดแย้งหรือฝันร้ายการเมืองทุกอย่างจะคลี่คลายจบลงได้ด้วยดี ในขณะที่ร้อยละ 43.2 หมดความหวังต่อสถานการณ์การเมืองของประเทศ


โพสต์โดย: นางสาวพรรณวิภา ติคำ ID: 5131601135

ไม่มีความคิดเห็น: