วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สภาฯ เห็นชอบร่างกฎหมายออกเสียงประชามติแล้ว

รัฐสภา 28 ส.ค. - สภาฯ เห็นชอบร่างกฎหมายออกเสียงประชามติแล้ว หลัง กมธ.แก้ไขให้ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียงชี้ขาด และให้ร้องคัดค้านใน 48 ชั่วโมง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงบ่ายวันนี้ (28 ส.ค.) มี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานประชุม พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.... ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีสาระสำคัญอยู่ที่มาตรา 8 ที่กรรมาธิการฯ แก้ไข ระบุว่า การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติ ต้องมีผู้มาออกเสียงเป็นจำนวนเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียง และมีจำนวนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น ซึ่งร่างเดิมที่กำหนดให้ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมลงมติเห็นชอบตามร่างของกรรมาธิการฯ ด้วยคะแนน 205 ต่อ 35 งดออกเสียง 5 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายในมาตรานี้ ส.ส.จากพรรคพลังประชาชนส่วนใหญ่ อภิปรายโจมตีการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เป็นผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.นี้ ว่ามี 2 มาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่ กรณีการให้ใบเหลืองและใบแดง พร้อมยกตัวอย่างที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้เพียงใบเหลือง กรณีการจ่ายเงินซื้อเสียงของหัวคะแนนผู้สมัคร และยังมีกรณีของนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีข่าวว่าจะหลุดจากใบแดง นายวิฑูรย์ อภิปรายว่า เรื่องซื้อเสียงไม่เป็นความจริง และยังถูกโจมตีอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่สำนวนยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต. ขณะที่นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ภูมิคุ้มกันของพรรคประชาธิปัตย์ คือ การไม่ทุจริตการเลือกตั้ง ไม่เหมือนกับกรณีของบางพรรคที่ถูกใบแดง ซึ่งเป็นไปตามกรรมที่ทำไว้ จากนั้น ในการพิจารณามาตรา 33 เรื่องการคัดค้านการออกเสียง ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กรรมาธิการฯ แก้ไข ที่ให้สิทธิในการยื่นคัดค้านการออกเสียงต่อ กกต. ภายใน 48 ชั่วโมง ซึ่งร่างเดิมกำหนดให้ร้องคัดค้านภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่การลงคะแนนสิ้นสุดลง ภายหลังการอภิปรายนานกว่า 2 ชั่วโมง ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ตามร่างของกรรมาธิการฯ ด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 267 เสียง




โพสต์โดย: นางสาวภัทราสิยากร ณ นคร ID: 5131601005


ไม่มีความคิดเห็น: