วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เอแบคโพลล์เผยคนกรุงมีความสุขต่ำสุดจากเหตุขัดแย้งทางการเมือง

กรุงเทพฯ 31 ส.ค.- เอแบคโพลล์ พบคนกรุงเทพฯ มีความสุขต่ำสุดจากเหตุความขัดแย้งทางการเมือง เร่งทุกฝ่ายแก้ปัญหาก่อนที่สถานการณ์จะรุนแรงกว่านี้ เสนอ 5 แนวทางเพื่อเป็นทางออก ทั้งนำเอกลักษณ์รักความสงบสุข หันหน้ามาเจรจากันด้วยสันติวิธี ฝ่ายพันธมิตรฯ และรัฐบาล ควรตั้งมั่นในฐานของความเป็นจริงมากกว่ายึดมั่นในฐานของอำนาจของแต่ละฝ่าย เป็นต้น นายนพดล กรรณิกา หัวหน้าศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน (ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง "ความสุขมวลรวมในช่วงเดือนสิงหาคม" ของประชาชนใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา ระยอง ปราจีนบุรี สุพรรณบุรี นครราชสีมา สุรินทร์ ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ กระบี่ สุราษฎร์ธานี และพัทลุง จำนวน 2,956 ราย ระหว่างวันที่ 21 - 30 สิงหาคม 2551 พบว่าความสุขมวลรวมอยู่ที่ 5.82 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ลดลงต่อเนื่องจาก 6.30 ในเดือนเมษายน ขณะที่ระดับความทุกข์กำลังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 4.39 เมษายนเพิ่มมาอยู่ที่ 4.90 กรกฎาคมเพิ่มขึ้นเป็น 5.29 และสิงหาคมอยู่ที่ 5.30 ตามลำดับ เมื่อจำแนกความสุขมวลรวมของประชาชนคนไทยออกตามภูมิภาคต่างๆ พบว่า ความสุขมวลรวมของประชาชนลดต่ำลงในทุกภูมิภาค ภาคอีสานต่ำสุดอยู่ที่ 5.37 ตามด้วยคนกรุงเทพฯ อยู่ที่ 6.07 ที่น่าพิจารณาคือ ความสุขด้านต่างๆ ของคนกรุงเทพฯ ที่มีค่าความสุขมวลรวมต่ำกว่าประชาชนในภาคอื่นๆ และมีค่าต่ำที่สุด ได้แก่ ความสุขของคนกรุงเทพฯ ต่อบรรยากาศขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกับรัฐบาล มีค่าความสุขต่อบรรยากาศทางการเมืองเพียง 2.93 เท่านั้น จึงเป็นเรื่องที่ทุกๆ ฝ่ายต้องเร่งดำเนินการโดยด่วน ก่อนที่สถานการณ์จะรุนแรงบานปลายไปมากกว่านี้ และหน่วยงานด้านสุขภาพจิตต้องเร่งแนะนำช่วยให้ประชาชนผ่อนคลายความเครียดจากสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลวิจัยความสุขครั้งนี้พบว่า ความสุขของสาธารณชนคนไทยภายในประเทศต่อความจงรักภักดีเพิ่มสูงขึ้นจาก 9.28 ในเดือนกรกฎาคม มาอยู่ที่ 9.49 ในเดือนสิงหาคม นายนพดล ระบุด้วยว่า เมื่อประมวลภาพข้อมูลงานวิจัยที่ผ่านมา พบว่าแนวทางเพื่อเป็นทางออกของประเทศไทยขณะนี้น่าจะมีอย่างน้อย 5 ประการคือ 1.ประชาชนคนไทยทุกคนน่าจะนำเอกลักษณ์โดดเด่นของความเป็นคนไทย คือ รักความสงบสุข มีไมตรีจิตต่อคนอื่น รู้จักประนีประนอม เกื้อกูลกัน อดทนอดกลั้น หันหน้ามาเจรจากันด้วยสันติวิธี 2.ทั้งฝ่ายพันธมิตรฯ และรัฐบาล ควรตั้งมั่นในฐานของความเป็นจริงมากกว่ายึดมั่นในฐานของอำนาจของแต่ละฝ่าย 3.กระบวนการยุติธรรมต้องเร่งสะสางคดีความต่างๆ ทางการเมืองด้วยความรวดเร็วฉับไว 4. สาธารณชนน่าจะได้รับการบริหารจัดการอารมณ์ความรู้สึกอย่างสมดุล และ 5. ให้ทุกฝ่ายมุ่งไปที่ "การถอดบทเรียน" จากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น และเรียนรู้ร่วมกันในประวัติศาสตร์ใหม่ของการเมืองไทยครั้งนี้ โดยรัฐบาลและสาธารณชนควรปรับตัวให้อยู่ร่วมกันได้ในทุกสถานการณ์ และทุกความขัดแย้งโดยไม่มีการใช้ความรุนแรง




โพสต์โดย: นางสาวพรรณวิภา ติคำ ID: 5131601135

ไม่มีความคิดเห็น: