วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เมื่อสื่ออยู่ระหว่างสองฝ่ายที่จะห้ำหั่นกัน

ก็ย่อมจะโดนบีบคั้น และแสดงความเป็นผู้ทำหน้าที่เพื่อรายงานข่าวอย่างตรงไปตรงมาอย่างสุดกำลัง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับ คุณสมัคร สุนทรเวช ต่างก็กดดันสื่อให้มาอยู่ข้างตนเอง นั่นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้...ตราบเท่าที่ฝ่ายที่เผชิญหน้ากันนั้นมีความเคารพในความเป็นนักวิชาชีพของคนทำข่าว แต่ทันทีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายใช้การข่มขู่คุกคาม ไม่ว่าจะด้วยกำลังหรือวาจา เมื่อนั้น สื่อเองจะต้องพิสูจน์ความเป็นตัวตนที่แท้จริง และตัวตนที่แท้จริงของสื่ออาชีพนั้น ก็คือการประกาศยืนยันที่จะทำหน้าที่ของตนโดยไม่ยอมสยบต่อแรงกดดันจากฝ่ายใด... เพราะท้ายที่สุดแล้ว สื่ออาชีพมีหน้าที่และความรับผิดชอบ ที่จะต้องรายงานข่าวรอบด้านให้กับประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง เมื่อจุดยืนของสื่ออาชีพเป็นเช่นนี้ ทันทีที่เห็นภาพคนกลุ่มหนึ่งเข้าบุกยึดสถานีทีวี NBT (ช่อง 11) และขับไล่ฝ่ายข่าวที่กำลังออกอากาศอยู่ด้วยน้ำเสียงและลีลาข่มขู่ คนทำสื่อส่วนใหญ่ก็มิอาจจะรับได้ ไม่ว่าคนทำสื่ออื่นๆ จะเห็นด้วยหรือไม่กับการดำรงอยู่ของ NBT ที่รัฐบาลสมัคร ใช้เป็นกระบอกเสียงของตน แต่การจะทำให้สื่อของรัฐ (อันหมายถึงของประชาชน) กลับมาทำหน้าที่ของตน เพื่อรับใช้คนส่วนใหญ่นั้น ย่อมมีวิธีการและขั้นตอนที่สังคมอารยะกำหนดเอาไว้ ยิ่งคนกลุ่มที่แต่งตัวน่าเกรงขามนั้นเข้าไปกระทำการคุกคามคนข่าวในกองบรรณาธิการและช่างเทคนิคของสถานี (ซึ่งไม่ใช่ผู้กำหนดนโยบายของสถานี) ก็ยิ่งทำให้เห็นว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้สนใจไยดีกับ "ความถูกต้องชอบธรรม" ของการกระทำของตน
พันธมิตร ไม่ได้ปฏิเสธว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการยึดทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงหลายกระทรวงของเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ดังนั้น จึงต้องให้พันธมิตรแสดงจุดยืนเรื่องนี้ออกมาให้กระจ่างชัด เพราะความเคลื่อนไหวของพันธมิตร ที่เรียกร้องให้ "กู้ชาติ" นั้น เป้าหมายสำคัญประการหนึ่งคือ การเคารพในเสรีภาพแห่งข่าวสารมิใช่หรือ? วันเกิดเหตุนั้น นักข่าว และเจ้าหน้าที่ของทีวีบางช่อง ก็โดนสมาชิกบางคนของพันธมิตร ข่มขู่คุกคามด้วยวาจา และมือไม้ที่แสดงให้เห็นว่าพันธมิตรบางคนเกิดความเข้าใจผิดๆ ว่าสื่อทุกสื่อจะต้องรายงานเฉพาะข่าวที่พวกตนเห็นด้วยเท่านั้น อีกด้านหนึ่งที่สื่อรับไม่ได้เหมือนกันก็คือการที่นายกรัฐมนตรีสมัคร พูดจากระทบกระเทียบสื่ออาชีพ ทำนองว่าเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง "วันนี้ สื่อเป็นกลางไม่ได้ สื่อต้องเลือกข้าง" คือ ประโยคที่หลุดออกมาจากปากของคนเป็นผู้นำประเทศที่มีหน้าที่จะต้องแก้ปัญหาของบ้านเมืองด้วยความสุขุม และรอบคอบ และเคารพในการทำหน้าที่ของฝ่ายต่างๆ ในสังคมที่ยังเคารพกฎหมายและเชื่อในระบอบประชาธิปไตย คุณสมัคร พูดเป็นทำนองข่มขู่สื่อว่าหากไม่อยู่ข้างรัฐบาลก็แปลว่าไม่ใช่คนไทยหรือไม่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความปั่นป่วนให้กับบ้านเมือง คุณสมัคร กล่าวร้ายสื่อมาตลอดตั้งแต่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่สำเหนียกว่าสื่ออาชีพของประเทศไทยนั้นได้อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาตลอดประวัติศาสตร์การเมืองของชาติ...และได้ทำหน้าที่ผ่านร้อนผ่านหนาวแห่งวิกฤติประเทศชาติมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่รายงานข่าวอย่างตรงไปตรงมาช่วง 14 ตุลา และ 6 ตุลา หรือ พฤษภาทมิฬ ทุกครั้งที่มีวิกฤติบ้านเมือง สื่อจะโดนกดดันให้ต้อง "เลือกข้าง" เช่นนี้เสมอ แต่ทุกครั้งที่ผ่านมานั้น สื่ออาชีพที่รับผิดชอบจะยืนหยัดในการทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ต่อประชาชน ไม่ว่าจะถูกคุกคามทั้งทางตรงและทางอ้อมเพียงใด คุณสมัคร ไม่เข้าใจหรือว่า "ความเป็นกลาง" ของอาชีพสื่อนั้นหมายถึงการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อ เพื่อแสวงหาทางออกให้พ้นจากวิกฤติของประเทศชาติ สื่อจะไม่ "เลือกข้าง" เพียงเพราะโดนกดดัน และ "ข้าง" ที่สื่อเลือกโดยความสำนึกแห่งวิชาชีพนั้นคือผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ เพราะทันทีที่สื่อใดทำตัวเป็นกระบอกเสียงของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในความขัดแย้ง สื่อนั้นจะหมดความน่าเชื่อถือและหมดสภาพของการเป็นสื่ออาชีพที่รับผิดชอบทันที ทั้งคุณสมัครและพันธมิตรต้องเคารพการทำหน้าที่ของสื่อที่ไม่ได้มีผลประโยชน์เกี่ยวพันกับ "ชัยชนะ" หรือ "ความพ่ายแพ้" ของท่านเป็นอันขาด


โพสต์โดย: นางสาวชาลินี เอี่ยมโอน ID: 5131601043

ไม่มีความคิดเห็น: