วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ปราสาทตาเมือนธม คิวต่อไปของไทย - กัมพูชา

กรณีพิพาทปราสาทเขาพระวิหาร บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ทันยุติ ก็มีประเด็นใหม่ผุดขึ้นมาให้ได้คลางแคลงใจกันอีกระลอก สำหรับ "ปราสาทตาเมือนธม" ในกิ่งอ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่ทางกัมพูชาอ้างว่า ไทยส่งกำลังทหารยึดปราสาทดังกล่าว ทั้งที่เป็นดินแดนของกัมพูชานั้น เรื่องนี้ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยเกี่ยวกับที่มาที่ไปของปราสาทตาเมือนธมกันมากมายมีคำถามที่ว่า ตกลงแล้วปราสาทนี้เป็นของใคร วันนี้เรานำข้อมูลมาฝากกันค่ะ


ความสำคัญของ...ปราสาทตาเมือนธม

ปราสาทตาเมือนธม มีสิ่งก่อสร้างที่เชื่อว่าเป็นที่พักคนเดินทาง หรือที่เรียกกันว่า "ธรรมศาลา-บ้านมีไฟ"แห่งหนึ่งใน 121 แห่ง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มหาราชองค์สุดท้ายแห่งเมืองพระนคร โปรดฯ ให้สร้างขึ้นจากเมืองยโสธรปุระ เมืองหลวงของอาณาจักรขอมโบราณไปยังเมืองพิมาย จึงถือว่าเป็นปราสาทหินที่เชื่อมโยงเส้นทางอารยธรรมขอมโบราณระหว่าง ปราสาทนครวัด-นครธม ประเทศกัมพูชา กับปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ และ ปราสาทหินพิมาย จ.นครราชสีมา นอกจากนี้ ปราสาทตาเมือนโต๊ด ในกลุ่มปราสาทตาเมือน ยังเป็นอโรคยศาลา(โรงพยาบาลในสมัยนั้น) หลังสุดท้ายในเขตประเทศไทย ที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งเป็น 1 ใน 102 แห่ง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โปรดให้สร้างเพื่อช่วยเหลืออาณาประชาราษฎร์ ดังข้อความในจารึกของพระองค์ที่พบในประเทศ ไทยหลักหนึ่งระบุว่า...ทุกข์ของประชาราษฎร์ คือทุกข์ ในพระองค์... สำหรับเรื่องราวที่กำลังเป็นข่าวอยู่ขณะนี้ การถามหาเจ้าของที่แท้จริงของปราสาทตาเมือนธมคงยังไม่ได้ข้อยุติโดยง่าย เพราะทั้งสองประเทศถือแผนที่กันคนละฉบับ โดยฝั่งกัมพูชายึดแผนที่จากการปักปันเขตแดนหมายเลขที่ 23 ระหว่างไทย-ฝรั่งเศส เมื่อครั้ง ปี ค.ศ.1908 ซึ่งระบุว่า ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาเมือนธม ตั้งอยู่ในดินแดนกัมพูชา ส่วนปราสาทตาเมือนตั้งอยู่ในดินแดนของไทย ขณะที่แผนชุด L 7017 ที่ฝ่ายไทยยึดถือ ปรากฎเส้นแบ่งเขตแดนคือ ตัวปราสาทตาเมือนธมอยู่ในเขตกัมพูชา และอีก 2 ปราสาท(ตาเมือนโต๊ดและตาเมือน) อยู่ในเขตไทย


อย่างไรตาม นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาจะมาเรียกคืนปราสาทตาเมือนธม ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาใน จ.สุรินทร์ว่า กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนปราสาทตาเมือนธมเป็นของไทยมานานแล้วและไม่เคยเห็นกัมพูชาคัดค้านหรือเข้าไปดูแล และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการพิสูจน์สิทธิ์ แต่เกี่ยวกับเส้นปักปันเขตแดนว่าเป็นอย่างไร เหมือนกรณีเขาพระวิหารและบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาก็มีแนวเขตแดนต่อกันยาวเป็น 100 กิโลเมตร ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวมีโบราณสถานหลายแห่งเรื่องปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาเมือนจะจบลงอย่างไร จะกลายเป็นประเด็นร้อนระหว่างไทย-กัมพูชาขึ้นมาอีกหรือไม่ คงต้องดูท่าทีเกี่ยวกับเรื่องนี้กันต่อไปนะคะ แต่ที่แน่ๆงานนี้หลายฝ่ายเริ่มจับตามองเรื่องนี้กันไม่น้อยแล้ว


ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/27358

โพสต์โดย: นางสาวภัทราสิยากร ณ นคร ID:5131601005





8 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ก็ในเมื่อกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนปราสาทตาเมือนธมเป็นของไทยมานานแล้ว อีกอย่างกัมพูชาเองก็ไม่ได้คัดค้านหรือเข้าไปดูแลอะไรเกี่ยวกับปราสาทเลย

แล้วจะมาเรียกร้องอะไรอีก

ปัญหามากมายจริง ๆ ๆ

* Discuss Of Law * กล่าวว่า...

ปราสาทเป็นของประเทศไทย

ยังไงก็เป็นของประเทศไทยอย่างแน่นอน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มีแต่ปัญหามากมาย
ไม่จบไม่สิ้นสักที

จะมาแย่งสมบัติของประเทศอื่นเขาหรือยังไง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พวกเราคนไทย
ต้องช่วยกันปกป้อง
สมบัติของชาติ

อย่าให้ใครมาแย่งไปง่าย ๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ปราสาทตาเมือนธม

เป็นของ ประเทศไทย อย่างแน่นอน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อ่านแล้ว รู้ สึกไม่ค่อยชอบใจเขมร เลย เพื่อนบ้าน จอมทรยศ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ปราสาทตาเมือนธม เป็นของประเทศไทย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรื่องยังไม่จบ เกิดอีกเรื่องแล้ว
ประเทศเพื่อนบ้านแท้ๆ ไม่น่าเกิดเลย
แต่ประสาทเป็นของไทยแน่นอน......