วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Thailand today

ตร.สารเลว! บอก “อภิสิทธิ์” ไม่เห็นประชาชนถูกทำร้าย!-พธม.ยึดพื้นที่คืน






credit photos : www.manager.co.th





สถานการณ์ทางการเมืองตึงเครียดขึ้นทุกที และเป็นธรรมดาว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งแล้วก็ต้องสิ้นสุดลงในทางใดทางหนึ่ง แต่จะเป็นทางไหนนั้นก็ต้องติดตามดูสถานการณ์กันเอาเอง

หากดูลีลาท่าทีของคุณสมัคร สุนทรเวช ที่ร้องเพลงโชว์ถึง 11 เพลงในคืนวันที่ 27 สิงหาคม 2551 ก็อาจเข้าใจว่ามีความมั่นใจว่าจะเป็นฝ่ายชนะ

เพราะ ไม้หนึ่ง สามารถออกหมายจับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ และอีกไม้หนึ่ง ก็สามารถขอให้ศาลคุ้มครองขับไล่พันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาล

ส่วนในใจจริงนั้นจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ แต่ถ้าดูสีหน้าและแววตาก็เห็นได้ชัดว่าหาได้ผ่องใสโล่งใจเหมือนดังที่ แสดงออกไม่ ดังนั้นจึงมีข่าวคราวในเช้าวันเดียวกันจากหน้าหนังสือพิมพ์ว่ารัฐบาลกำลังจน ท่า ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร ต้องขอให้สหรัฐฯ เข้ามาช่วย

ถ้าเป็นจริงก็ยุ่งกันใหญ่! เพราะนี่คือการชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน ประหนึ่งเอาไทยไปเป็นเมืองขึ้นของสหรัฐฯ หรืออย่างไร?

เพราะแต่ไหนแต่ไรมานั้น หากชาติใดไปขอให้ชาติอื่นเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาภายในของตนเองแล้ว ก็จะยิ่งยุ่งยาก ยืดเยื้อ และในที่สุดก็จะตกอยู่ภายใต้การครอบงำของชาติอื่น

ในพิชัยสงครามเขาจึงห้ามไม่ให้อาศัยต่างชาติเข้ามาแก้ไขปัญหาภายในของตน

ตอนที่จะเริ่มเป็นสามก๊กนั้นมีความขัดแย้งภายในเมืองหลวง แต่แทนที่จะแก้ไขปัญหาด้วยกำลังตน กลับไปเชิญกองทัพตั๋งโต๊ะจากชานตงเข้ามา เมื่อกองทัพตั๋งโต๊ะเข้ามาแล้วก็ยึดอำนาจจากส่วนกลางไปเลย นี่คือตัวอย่างที่ต้องสังวรไว้ให้ดีและควรที่จะต้องท้วงติงรัฐบาลเอาไว้

อันไม้หนึ่งไม้สองของรัฐบาลนั้นขยายความกันจนราวจะเป็นไม้เด็ดไม้ตาย แต่แท้จริงแล้วจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ก็ยังเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ข้อแรก ข้อหากบฏนั้นตั้งเอากับคน 9 คน ในขณะที่มีประชาชนหลายแสนคนเคลื่อนไหวในวันที่ 26 สิงหาคม 2551 ก็แสดงให้เห็นว่านอกจาก 9 คนนี้แล้วไม่ได้เป็นกบฏด้วย แล้วคน 9 คนจะเป็นกบฏไปได้อย่างไร?

จำนวนนี้น้อยกว่าที่รัฐบาลถนอม-ประภาสเคยตั้งข้อหานักศึกษา และน้อยกว่ารัฐบาลหลัง 6 ตุลาตั้งให้กับแกนนำการเคลื่อนไหวมากมายนัก

ข้อหากบฏในสถานการณ์ขัดแย้งทางการเมืองจึงอาจเป็นเพียงผลของความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างรัฐบาลกับพวกที่ไม่เห็นด้วยก็ได้

เนื้อหาที่แท้จริงก็คือคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลมีจำนวนมาก ปรากฏการณ์ทั้งหมดก่อขึ้นจากตรงนี้ ตราบใดต้นเหตุไม่ได้รับการแก้ไขก็ไม่มีทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้

และหากปราบปรามสุ่มสี่สุ่มห้าจนพันธมิตรฯ แตกกระเจิงไปแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น คิดกันหรือยัง?

คิดกันบ้างหรือไม่ว่าเมื่อใดคนจำนวนมากหมดความเชื่อในแนวคิดอหิงสา และไร้ผู้นำฝูงชน เมื่อนั้นเหตุการณ์แบบเลบานอนหรืออิรักก็อาจเกิดขึ้นได้

ปรากฏการณ์ คราวนี้มีพี่น้องมุสลิมจากภาคใต้เข้ามาร่วมเป็นจำนวนมาก และมีพี่น้องมุสลิมในกรุงเทพฯ และภาคกลางสนับสนุนในด้านอาหาร หากมีใครเป็นอะไรไปพี่น้องมุสลิมทั้งประเทศเขาจะคิดอย่างไร?

ที่น่าห่วงก็คือพี่น้องจากภาคใต้ หากสิ้นหวังจากแนวคิดอหิงสาแล้ว จะเลือกวิถีทางใดอีก ก็ยากจะคิด แต่ถ้าหากเลือกไปร่วมมือกับผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่สี่จังหวัดภาคใต้ แล้วจะแก้ปัญหานั้นกันอย่างไร

ข้อหากบฏที่ตั้งเอากับแกนนำ 9 คนนั้น มันเป็นข้อหาทางการเมือง แต่ถ้าแพ้ก็ต้องขึ้นศาลหรืออาจติดคุกติดตะรางในที่สุด แต่ถ้าชนะก็คงมีการอภัยให้แก่กันอย่างแน่นอน

เพราะ เจตนาของกฎหมายในเรื่องกบฏนั้นหมายเอาการตั้งกองกำลังติดอาวุธเพื่อแย่งชิง หรือต่อสู้กับอำนาจรัฐ ไม่ใช่เดินนั่งมือเปล่าเท้าเปล่าดังที่เห็นๆ กันอยู่

ข้อสอง การฟ้องศาลแพ่งให้คุ้มครองชั่วคราวให้พันธมิตรฯ ออกไปจากทำเนียบรัฐบาลนั้น แท้จริงแล้วก็คือการฟ้องแกนนำ 5 คน ดังนั้นคำสั่งของศาลแพ่งจึงผูกพันเฉพาะคน 5 คนนี้เท่านั้น ไม่ผูกพันกับบุคคลอื่นที่ไม่ได้ถูกฟ้องด้วย

เพราะ การคุ้มครองทางแพ่งมันใช้ไม่ได้กับกรณีของมวลมหาประชาชน ดังนั้นหากคนที่เข้าร่วมชุมนุมไม่ยอมออก คำสั่งศาลก็บังคับคนเหล่านั้นไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้ถูกฟ้องในคดี ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งคุ้มครองไม่ให้คำสั่งของศาลไปบังคับถึงคน อื่นที่ไม่ได้เป็นคู่ความในคดีด้วย

คำสั่งศาลที่คุ้มครองชั่วคราวย่อมมีผลบังคับทันที แต่จะเป็นทันทีที่มีการส่งหมายบังคับคดีทางแพ่งให้กับคู่ความแล้ว ข่าวคราวทางสื่อมวลชนไม่มีผลเป็นการส่งหมายคุ้มครองนั้น และเมื่อส่งหมายแล้ว หากไม่มีการปฏิบัติ ศาลก็อาจเรียกคู่ความไปชี้แจงต่อศาลว่าทำไมจึงไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมาย บัญญัติไว้

หากคำชี้แจงมีผล ศาลก็อาจเปลี่ยนแปลงคำสั่งได้ แต่ถ้าไม่มีผลศาลก็จะออกหมายให้เจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลทำการบังคับคดี ตามหมายคุ้มครองนั้น

ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิ์ผู้ถูกฟ้องที่จะขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อเพิกถอนคำสั่ง หรืออุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์โดยตรงก็ได้

เหตุการณ์จะเป็นไปในทางไหนก็ไม่รู้ คงต้องติดตามดูกันเอาเอง
ไม้ แรกคือข้อหากบฏ และไม้สองคือคำสั่งคุ้มครองกำลังเป็นข่าวคราวที่โด่งดังและถูกขยายผลทางสื่อ จนเกือบกลบการต่อสู้เรียกร้องของประชาชน แต่ก็หาหมดสิ้นไม่

สื่อต่างประเทศเริ่มตั้งข้อกล่าวหาว่ามีการใช้สื่อเป็นเครื่องมือใส่ ร้ายป้ายสีประชาชนแล้ว นักวิชาการจำนวนหนึ่งก็เริ่มท้วงติงแล้ว แต่ประชาชนจำนวนหนึ่งก็ยังเชื่อสื่อเป็นธรรมดา

แต่ประชาชนอีกจำนวนหนึ่งซึ่งเชื่อฝ่ายพันธมิตรฯ ก็ยังคงเชื่อต่อไป และแม้จะมีข่าวคราวอย่างไรก็ถือว่าเป็นเครื่องมือของอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ยอมเชื่อฟังอีก

เป็นเหตุการณ์ซ้ำรอยเหตุการณ์ 14 ตุลา เหตุการณ์ 6 ตุลา และพฤษภาทมิฬไม่มีผิด!
มัน ซ้ำรอยด้วยรูปแบบการใช้สื่อบิดเบือนความจริงอย่างหนึ่ง และมันจะซ้ำรอยที่ประชาชนจำนวนหนึ่งไม่เชื่อถือแล้วพากันไปร่วมชุมนุมอีก อย่างหนึ่ง นี่คือกงล้อประวัติศาสตร์ที่กำลังหมุนซ้ำรอยเดิม

กลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงชุมนุมกันอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ฝ่าความลำบากตรากตรำอย่างหนักทั้งแดด ฝน ทั้งความหิว ความเหนื่อยล้า น้ำท่า ห้องสุขา และต้องรับมือกับปฏิบัติการณ์ทางจิตวิทยาจนแทบไม่เป็นอันหลับนอน จนล่วงเลยเวลากำหนดที่รัฐบาลยื่นคำขาดมาหลายครั้งหลายหน และยังไม่รู้ว่าจะจบลงที่ตรงไหน

2-3 วันที่ผ่านมา ฝ่ายที่ต้องการสลายการชุมนุมได้ปฏิบัติการณ์อย่างที่เคยปฏิบัติมาแต่อดีต แต่รูปแบบนั้นเห็นได้ชัดว่าหมายจะใช้รูปแบบการล้อมปราบแบบเหตุการณ์ 6 ตุลา เพื่อสลายการชุมนุม และจับแกนนำ

ฝ่ายที่ชุมนุมอยู่ในทำเนียบรัฐบาลยังคงใช้แนวทางอหิงสาอยู่เหมือน เดิม ท่ามกลางการจับตาอย่างไม่วางตาของสื่อมวลชนต่างประเทศ ผู้แทนของทูตานุทูตต่างๆ ในประเทศไทยที่พร้อมกระจายข่าวออกไปทั่วโลกในทันที

ปฏิบัติการล้อมปราบหยุดชะงักลงหลังเหตุการณ์ตำรวจบุกเข้าทำเนียบ รัฐบาลในเวลาตี 3 ของคืนวันที่ 27 สิงหาคม 2551 มีการปะทะกันและประชาชนบาดเจ็บเกือบ 30 คน

แม้สื่อมวลชนไทยไม่ได้เสนอข่าวนี้เลย แต่ข่าวก็ปรากฏไปทั่วโลก! และเผยให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมอำมหิตที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทยอีกครั้ง หนึ่ง

ฝ่าย ล้อมปราบจึงเสียแต้มและต้องทบทวน แต่ในที่สุดก็ดึงดันเดินหน้าแผนล้อมปราบต่อไป ด้วยการระดมพลใหญ่ในวันที่ 27 สิงหาคม 2551 และใช้กำลังตำรวจทั้งหมดเพราะทหารไม่เกี่ยวข้องด้วย

อาจจะมีการคิดอ่านเลยเถิดไปกว่าการล้อมปราบ จึงมีการระดมกำลังจนมากเกินและผิดสังเกต มีการวางกำลังตำรวจใกล้ย่านสี่เสาเทเวศร์เป็นจำนวนมากผิดสังเกต จนเกิดข่าวลือว่าจะมีแผนปฏิบัติการจับกุมตัวบุคคลสำคัญเพื่อนำไปสู่ความคิด อ่านที่เลยเถิดนั้น

จึงเกิดข่าวลือตามมาเรื่องการขยับตัวขึ้นของฝ่ายทหารบางกลุ่ม และเกิดการแตกตัวขึ้นในหมู่ผู้บริหารของตำรวจเอง ลึกลงมาถึงตำรวจระดับปฏิบัติการด้วย จึงเป็นผลให้แผนการล้อมปราบในค่ำคืนวันที่ 27 สิงหาคม 2551 ต้องด้านไป

จะทำอย่างไรกันต่อไปนั้น ประชาชนอย่างเราท่านย่อมยากที่จะรู้ได้ แต่ก็เห็นได้ว่าแนวโน้มมีความชัดเจนว่า

ฝ่ายผู้ล้อมปราบคงใช้รูปแบบล้อมปราบเมื่อครั้ง 6 ตุลาคม โดยไม่คำนึงว่า การล้อมปราบประชาชนจะส่งผลให้ประเทศไทยเป็นเลบานอนหรืออิรักหรือแบบไหนต่อไป

ส่วนฝ่ายผู้ชุมนุมนั้นคงยืนหยัดชุมนุมกันต่อไป โดยมุ่งหวังยึดศูนย์กลางของรัฐบาลให้นานที่สุด และขยายผลเชิญชวนประชาชนเข้ามาร่วมชุมนุมให้มากที่สุด โดยหวังว่าเมื่อใดที่ข้าราชการทหาร ตำรวจ เข้ามาร่วมชุมนุมอย่างสันติก็จะได้รับชัยชนะ ซึ่งเป็นรูปแบบการต่อสู้ของชาวฟิลิปปินส์ในการขับไล่มาร์กอส

ดัง นั้นรูปแบบการล้อมปราบแบบ 6 ตุลาคม หรือที่อาจ “เลยเถิด” ไปสู่การยึดอำนาจแบบ 6 ตุลาคม จึงเป็นรูปแบบหนึ่ง ในขณะที่ฝ่ายพันธมิตรฯ กำลังใช้รูปแบบ “มาลากันยัง” ของฟิลิปปินส์ที่เคยขับไล่มาร์กอสสำเร็จมาแล้ว นี่คือรูปแบบของสถานการณ์ที่ปรากฏให้เห็นในขณะนี้

อย่ากะพริบตาเป็นอันขาด สถานการณ์มาถึงจุดที่จะชี้ขาดแล้วว่ารูปแบบล้อมปราบแบบ 6 ตุลา กับรูปแบบมาลากันยังนั้น รูปแบบไหนจะเป็นรูปแบบที่ชนะในครั้งนี้?

และคาดผลล่วงหน้าได้เลยว่า
ถ้ารูปแบบล้อมปราบแบบ 6 ตุลาชนะ และเลยเถิดเป็นการยึดอำนาจแบบ 6 ตุลา การปราบปรามประชาชนทั่วประเทศที่ลุกฮือก็จะเกิดขึ้น แนวความคิดอหิงสาจะไม่มีใครเชื่อถืออีกต่อไป จึงอาจเกิดสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบตามที่ใครบางคนเคยพูดไว้ก็ได้

แต่ ถ้ารูปแบบมาลากันยังชนะ รัฐบาลสมัครก็จะล่มสลายลงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่จะไปถึงขั้นขุดรากถอนโคนการเมืองน้ำเน่าแห่งระบอบทุนนิยมสามานย์ได้หรือ ไม่ ยังคงต้องติดตามดูกันต่อไป

credit : สิริอัญญา
website :
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000101831






http://www.teachmeteamwork.com/photos/uncategorized/agree.jpg

วันนี้ ข้าพเจ้าจะไม่เขียนอะไรต่อเติม เพราะข้าพเจ้า "เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง" กับความคิดของคุณสิริอัญญา

ซึ่งโพสต์มาในเว็บ manager.co.th
เห็นด้วยอย่างที่สุด !!

แม้กระทั่งตำรวจที่เป็นที่พึ่งของประชาชนก็ดันมาทำร้ายประชาชนกันเองซะนี่
ตำรวจรับเงินจาก นปก. มาจริง สมัยข้าพเจ้าได้ไปร่วมการชุมนุมพันธมิตรที่เชียงใหม่ (เพราะความอยากรู้อยากเห็น)
นปก. ส่งนักเลงท้องที่มาขู่พวกพันธมิตรจริง ... แต่ก็ไม่มีใครทำอะไร
นปก. ทำร้ายพันธมิตรที่ไม่มีอาวุธ ตำรวจเห็น แต่ก็ไม่ทำอะไร

ความยุติธรรมมันอยู่ที่ตรงไหน

เราสามารถชุมนุมกันได้ ... เพราะไม่มีอาวุธ
ตามกฎหมายเค้าก็อนุญาติ แต่คุณเป็นใคร เราไม่ได้ทำอะไร
ทำไมถึงต้องตีกัน ทำร้ายกัน บ้านเมืองไม่มีเขื่อมีแปหรืออย่างไร ??

http://www.schnews.org.uk/images_issues/74.gif

Imagine (John Lennon) - 08
Imagine all the people living live in peace *




written by ... กชกร สันติคุณากร 513 1601 001





11 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คนดียังมีอยู่
เสียแต่ ให้คนเลวปกครองประเทศ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ฟันธง พันธมิตรชนะครับ

จัดไป

งานนี้ประเทศได้แน่นอน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

"ใครเป็นออกคำสั่งให้ตำรวจออกมาทำร้ายประชาชน" เค้าก็ตอบแล้วไงครับว่า "ตำรวจดำเนินตามคำสั่งของ ศาล " นี่แหล่ะครับนักการเมืองไทย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ช่วยสืบหนอย
ไอ้ตำรวจตัวสูงๆๆที่มันเอากระบองฟาดคนเสื้อเหลือง
มันอยู่ สน.ไหน ด่วนเลย เดี๋ยวจัดให้

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คุณตำรวจคุณคิดว่าคุณเป็นใครมีอำนาจหรือมีสิทธิข้อใดในกฏหมายมาทำร้ายทำตี ประชาชนคุณคิดว่าคุณทำถูกต้องแล้วหรอ ที่แท้พวกคุณเองก็เหมือนมารร้ายที่ แต่งตัวเป็นคนดี เมืองไทยไม่เจริญเพราะมี ตำรวจ อัปรีย์อย่างนี้ไง สังคมไทย มีแต่พวกตำรวจเลวๆ ทำไมทหารไม่ยอมช่วยสักทีละค่ะ ไหนบอกว่า ทหารอยู่กับประชาชน เมื่อไหร่ สังคมไทยจะถูกต้องสักที ช่วยทีเถอะค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ทะเลชีวิต
คำร้อง / ทำนอง : จิตร ภูมิศักดิ์
ลมหวิว.... เจ้าแผ่วโชยพริ้วมาปลอบใจข้า
ยิ่งกระพือโหมไฟที่เริงร่า ลนลวกอุรา ให้แสนสุดร้อนรน
คอยหา... เหม่อมองขอบฟ้าใยช่างมืดมน
โอ้สุกที่รักล่องลอยทุกข์ทน ฝ่าคลื่นฝืนลมว่ายวน
ดวงดาวเอ๋ย วานดาวโปรดจงปราณี
วานดาวชี้ทิศทางให้แก่เพื่อนใจ
จงทรงผอง พลัง ยืนหยัดสู้ภัย
ฝ่าฟันจนเขามีชัย รอดพ้นคืนมา

ความหวัง... โปรดอย่าหักหลังลวงหลอกใจข้า
สิ่งที่ใฝ่ฝัน จงอย่าโรยรา บรรเจิดอยู่บนนภา ดั่งแสงดาว
คอยหา... เหม่อมองขอบฟ้าใยช่างมืดมน
โอ้สุกที่รักล่องลอยทุกข์ทน ฝ่าคลื่นฝืนลมว่ายวน
ดวงดาวเอ๋ย วานดาวโปรดจงปราณี
วานดาวชี้ทิศทางให้แก่เพื่อนใจ
จงทรงผอง พลัง ยืนหยัดสู้ภัย
ฝ่าฟันจนเขามีชัย รอดพ้นคืนมา.... ตราบนิรันดร....
ทรราชไม่เคยหมดจากชาติไทย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดูข่าวแล้วหดหู่มาก ตำรวจทำใด้งัย ขอเป้นกำลังใจให้ทำภารกิจกู้ชาติใด้สำเร็จ และต้องการให้ประชาชนคนไทยใด้เรียนวิชากฎหมาย จะใด้รู้ทันรัฐโจรตำรวจ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เราขอเป็นกำลังใจแก่กลุ่มพันธมิตรทุกคนที่ร่วมกันเสียสละความสุขสบายส่วน บุคคลตลอดเวลาที่ผ่านมา และรวมใจรวมพลังกันอย่างยิ่งใหญ่ครั้งนี้ จงเอาประชาธิปไตย และความยิ่งใหญ่ประเทศสยามของเราทุกคนคืนกลับมา ท้ายสุดขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งมวลคุ้มครองทุกคนให้ปลอดภัย และได้รับชัยชนะกลับมา

ไม่ต้องการคนขายชาติ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไม่ว่าอย่างไรจะยืนเคียงข้างพันธมิตรตลอดไป ขอบคุณที่ช่วยทำให้ชาวบ้านธรรมดาได้เห็นสภาพที่แท้จริงของประเทศ ขอบคุณที่ทำให้หูตาสว่าง แต่ยังมีคนอีกมากมายที่ความโลภและอำนาจบังตายังตาบอดอยู่

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อารยะขัดขืนทั่วประเทศ

= อารยชน ออกมาขัดขืน แสดงจุดยืนเลือกข้างแล้ว

ไอ้หอกหัก เห็นแล้วหรือยังว่าพวกเราเลือกอะไร

ออกไป ออกไป ออกไป ออกไป ออกไป

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อารยะขัดขืนทั่วประเทศ

= อารยชน ออกมาขัดขืน แสดงจุดยืนเลือกข้างแล้ว

ไอ้หอกหัก เห็นแล้วหรือยังว่าพวกเราเลือกอะไร

ออกไป ออกไป ออกไป ออกไป ออกไป