วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

learning mistake from history of nation

เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ที่ข้าพเจ้ามักจะตื่นแต่เช้า เพื่อหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต
เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการเขียนบล็อกในแต่ละเอนทรี่
ข้าพเจ้าได้ไปพบกับเว็บไซต์หนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์ช่างตรงเหลือเกินกับเหตุการณ์บ้านเราขณะนี้
ทั้งรูปการ และแนวทาง ช่างเหมือนกันอย่างเหลือเชื่อ
จนทำให้ข้าพเจ้าอดไม่ไหวที่จะนำบทความๆนั้น มาแบ่งปันให้ทุกๆคนได้อ่านกัน
และอยากจะให้ทุกคน ร่วมกันคิดไปด้วย ... ไม่ใช่พยายามที่จะบอกกันว่า

อย่าทะเลาะกันเลย อายต่างประเทศเขา

หากประชาชน ไม่มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง เค้าก็คงไม่เรียกว่า ประเทศที่ใช้การปกครองระบอบประชาธิปไตยหรอกใช่ไหม ?
และถ้าหาก ประชาชน ยังคงคิดว่าเรื่องการเมือง มันเป็นเรื่องไร้สาระ
ประเทศนั้นๆ ก็ยากที่จะหาความเจริญได้ เพราะความขัดแย้งทางสังคม มันเป็นประเด็นหนึ่งที่จะทำให้สังคมขับเคลื่อนไปได้ เหมือนที่เราก็ต่างได้เรียนกันมาแล้ว ในวิชา Man & society ในทฤษฎี Social Conflict แต่ก็ไม่เห็นจะมีใครพูดถึงจุดนี้เลย ...

คุณไม่ควรจะสร้างภาพต่อคนอื่น
เพราะประเทศเรา ... มันขัดแย้งอยู่จริง
เพราะขัดแย้งและขาดการทำความเข้าใจที่ดี ผลที่ตามมา ก็คือ ทะเลาะกัน
มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่เราก็สามารถพบกันได้ทั่วไป
แต่ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ ในเมื่อเราๆท่านๆต่างก็ต้องการสันติภาพ ความสงบสุข
ซึ่งตอนนี้ข้าพเจ้าก็ยังคงคิดไม่ออกว่า ...
จะมีทางแก้ทางไหนที่จะทำให้ประเทศไทยอยู่กันอย่างมีความสุข และมีสันติเหมือนเดิม

แต่สิ่งที่หนึ่งที่ข้าพเจ้าต้องการจะเสนอก็คือ
การที่ประเทศจะพัฒนาได้นั้น ... จำเป็นที่ต้องมีประชาชนที่มีคุณภาพ
และที่สำคัญที่สุดคือ แผนการบริหารงาน "ที่มีเสถียรภาพ และมีประสิทธิภาพ" จริงๆ

มันอาจจะเป็นแค่ แผนการบริหารงานราชการที่เป็นเพียงแค่ "อุดมคติ"
ที่เราต้องการให้ มันเป็นไปด้วยความโปร่งใส
แต่ในปัจจุบันนี้ ในโลกที่มนุษย์ก็ยังคงเป็นวัตถุนิยม มันก็คงยาก
ที่จะหาคนที่มีใจที่ต้องการพัฒนาบ้านเมืองจริงๆ

บางคน ถึงขั้นบอกว่า ...
"เบื่อแล้วการเมืองจะทะเลาะกันไปทำไม
นายกต้องจน หรือไง นายกรวย ไม่ได้หรอ ?? "

รวยได้ค่ะ .... นายกจะเป็นใครก็ได้ ที่บริหารงานดี
ทำให้ประชาชนมีความสุข และที่สำคัญเงินที่รวยนั้น ต้องมาอย่างถูกกฎหมายอย่างแท้จริง
ไม่ใช่แอบเอาช่องว่างของกฎหมาย มาเป็นทางเพื่อเอาเปรียบคนอื่น





เอาหล่ะค่ะ ข้าพเจ้าเองก็พล่ามมามากแล้ว
ข้อความที่จะนำเสนอ ข้าพเจ้าได้ตัดทอนมาจาก http://www.14tula.com

ซึ่งเป็นบันทึกเหตุการณ์ระหว่างช่วง ๑๔ ตุลา
บันทึกที่ข้าพเจ้าตัดทอนมา เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเมื่อวันที่ ๑๔ และ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๑๖
ลองอ่าน และวิเคราะห์ดูว่า บันทึกนี้สอดคล้องกับเหตุการณ์ปัจจุบันอย่างไร






บันทึกความทรงจำ วันอาทิตย์ที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖

ที่มา : http://www.14tula.com/remember/day14/day14_8.htm



.. บิดเบือน ..

เวลา 09.30 น. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยได้กระจายเสียงแถลงการณ์ของจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี บิดเบือนว่ามีนักเรียนและผู้แต่งกายคล้ายทหารก่อวินาศกรรม บุกเข้าไปในสวนจิตรลดาฯ และสถานที่ราชการ โดยมุ่งหมายที่จะลบล้างเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐบาลจึงขอประกาศว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเจ้าหน้าที่จะเข้าระงับสถานการณ์อย่างเด็ดขาด

และระหว่างนั้นเอง พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร ในฐานะหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการปราบปรามจลาจล พร้อมกับทหารและตำรวจ ก็ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ บินตรวจการณ์และรายงานข่าวถึงจอมพลถนอม กิตติขจร และจอมพลประภาส จารุเสถียร บิดเบือนว่าในธรรมศาสตร์มีการซ่องสุมอาวุธและผู้คน และการจลาจลครั้งนี้เป็นไปตามแผนของคอมมิวนิสต์ นอกจากนี้ยังมีการยิงปืนเอ็ม 16 และระเบิดแก๊สน้ำตาลงมาใส่ประชาชนด้วยตลอดทั้งวัน



.. ปะทะรุนแรงตอบโต้เผด็จการ ..

The image “http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/281/281/images/14October-Re.jpg” cannot be displayed, because it contains errors.

เหตุการณ์ได้บานปลายลุกลามออกไปอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดไว้ ทหารและตำรวจออกปราบฝูงชนโดยใช้ทั้งอาวุธปืน รถถัง และเฮลิคอปเตอร์ มีการต่อสู้ปะทะกันตลอดสายถนนราชดำเนินตั้งแต่ผ่านฟ้าถึงสนามหลวง โดยเฉพาะที่หน้ากรมประชาสัมพันธ์ กรมสรรพากร กองสลากกินแบ่ง โรงแรมรัตนโกสินทร์ ตึก ก.ต.ป. กองบัญชาการตำรวจนครบาลผ่านฟ้า รวมทั้งบริเวณสถานีตำรวจชนะสงครามและย่านบางลำภู

นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ก็เริ่มตอบโต้กลับรุนแรงมากขึ้น มีการยิงและปาระเบิดขวดตอบโต้ทหารตำรวจเป็นบางจุด มีการบุกเข้ายึดและทำลายสถานที่บางแห่งที่เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจเผด็จการคณาธิปไตย สำนักงานกองสลากกินแบ่งรัฐบาล ตึก ก.ต.ป. และป้อมยามถูกเผา บางคนได้ขับรถเมล์ รถขยะ และรถบรรทุกน้ำของเทศบาลวิ่งเข้าชนรถถัง ศพวีรชนที่สละชีวิตหลายคนถูกแห่เพื่อเป็นการประจานความทารุณของทหารตำรวจและชักชวนให้ประชาชนไปร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ส่วนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นักศึกษาก็ลำเลียงผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาลศิริราชทางเรือตลอดเวลา

ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ได้ออกแถลงการณ์โจมตีนักศึกษาประชาชนผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีคำสั่งให้ปิดสถาบันการศึกษาของรัฐในกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการทุกแห่ง และประกาศไม่ให้ประชาชนออกนอกบ้านในเวลากลางคืน







บันทึกความทรงจำ วันจันทร์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๑๖

ที่มา : http://www.14tula.com/remember/day15.htm


ยังตึงเครียด
The image “http://www.2519.net/newweb/gallery_new/images/10/ThuDecember2003-11-13-7-big5.jpg” cannot be displayed, because it contains errors.

http://www.14tula.com/images/gallery/event/images/e033_JPG.jpg

เวลา 00.30 น. ภายหลังจากลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว จอมพลถนอม กิตติขจร ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังคงออกแถลงการณ์ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกและวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยว่า มีผู้ที่พยายามจะนำลัทธิการปกครองอื่นที่เลวร้ายมาล้มล้างการปกครองแบบประชาธิปไตย จึงขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่จนสุดความสามารถ
ตลอดทั้งคืน นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนยังคงยืนหยัดชุมนุมกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นจำนวนมาก ที่บริเวณกองบัญชาการตำรวจนครบาลผ่านฟ้า เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ประชาชนก็ปะทะกับตำรวจทหารอยู่เป็นระยะ การจลาจลขยายขอบเขตออกไปทั่วกรุงเทพฯ ขณะที่ศูนย์ปวงชนชาวไทยได้พยายามประกาศให้หยุดการยิงต่อสู้กันและยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลใหม่เพื่อให้สถานการณ์สงบลง
จนกระทั่งถึงเช้า ประชาชนได้มาสมทบที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมากขึ้นเรื่อย ๆ ถนนทุกสายในกรุงเทพฯ เกลื่อนกลาดไปด้วยถังขยะเทศบาล เศษแก้ว เศษไม้ ซากป้อมตำรวจ ซากรถที่ถูกเผา สัญญาณไฟจราจรถูกทำลาย ส่วนทางต่างจังหวัด มีการชุมนุมเพื่อไว้อาลัยแกผู้เสียชีวิตและโจมตีความโหดร้ายของรัฐบาลเก่า รวมทั้งมีการบริจาคเลือดเพื่อส่งมาให้โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ
และเมื่อเวลา 08.15 น. สถานีวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์ก็ได้กระจายเสียงประกาศของนายสัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ให้ราชการในกรุงเทพฯ หยุดเป็นเวลา 3 วัน
เหตุการณ์ยังคงตึงเครียด ทหารส่งกำลังเข้ามาเสริมตามจุดต่าง ๆ ที่มีการจลาจล ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วกรุงเทพฯ ไม่ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ แต่ตั้งรับอยู่ในแต่ละสถานีโดยไม่ได้สวมเครื่องแบบตำรวจ หลายโรงพักถูกปล่อยร้าง
ฝ่ายกลุ่มประชาชนซึ่งยึดรถเมล์ได้ ก็ขับรถออกวิ่งไปตามถนนสายต่าง ๆ พร้อมกับร้องเพลงปลุกใจและโบกธงชาติ ขณะที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยคนนับพันยังคงชุมนุมกันอยู่ โดยมีนักศึกษาผลัดกันขึ้นพูดให้เหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ สงบลง ตามโรงพยาบาลทุกแห่ง แพทย์และพยาบาลต้องทำงานอย่างหนัก คนเจ็บและเสียชีวิตถูกนำมาส่งทุกระยะ จนไม่มีที่ว่างเหลือ ทุกโรงพยาบาลประกาศขอรับบริจาคเลือดและเงิน ซึ่งก็มีประชาชนไปบริจาคอย่างคับคั่ง


ทหารประกาศปราบคอมมิวนิสต์

http://www.14tula.com/images/gallery/event/images/e018_jpg.jpg

in the past


then ...


แต่แล้วเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. กองบัญชาการทหารสูงสุดกลับออกประกาศว่าผู้ก่อการจลาจลไม่ใช่นิสิตนักศึกษา แต่เป็นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ อย่าเชื่อข่าวลือที่ว่าทหารตำรวจทำร้ายนิสิตนักศึกษา และขอให้ประชาชนแยกออกจากผู้ก่อการจลาจล เพื่อที่ราชการจะได้ปราบปรามคอมมิวนิสต์ให้สิ้นซากโดยเร็ว
ระหว่างนั้น เลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยพร้อมกับกรรมการและเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ได้เข้าพบนายสัญญา ธรรมศักดิ์ ที่พระราชวังสวนจิตรลดา เพื่อปรึกษาถึงวิธีการแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน ทางด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาลผ่านฟ้า ประชาชนได้ช่วยกันปาระเบิดเพลิงเข้าไปจนถูกไฟไหม้อย่างหนัก จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องถอนกำลังออกไป จากนั้นก็มีประชาชนบุกเข้าไปเผาสถานีตำรวจนางเลิ้งซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันด้วย



คลี่คลาย
ช่วงเที่ยง ประชาชนหลายหมื่นคนได้เดินทางมาชุมนุมกันในบริเวณถนนราชดำเนินกลางอย่างแน่นขนัด เพื่อมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่กองบัญชาการปราบปรามจลาจล สวนรื่นฤดี จอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร และ พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร ได้ตัดสินใจที่จะเดินทางหนีออกนอกประเทศ เนื่องจากเกิดความขัดแย้งอย่างหนักในรัฐบาล และในหมู่ทหารตำรวจ
ถัดมาเวลา 14.10 น. สถานีวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ได้กระจายเสียงประกาศของกองบัญชาการทหารสูงสุด ห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานในเวลากลางคืน เพื่อสะดวกในการปราบปรามจลาจล
ขณะเดียวกัน กรรมการศูนย์กลางนิสิตฯ ก็ได้แบ่งกันออกไปพูดกับประชาชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและตามชุมชนต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์และให้สลายตัวโดยเร็วที่สุด และกรรมการฯ อีกส่วนหนึ่งไปติดต่อโรงพิมพ์สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อให้พิมพ์เจตจำนงของนายสัญญา ธรรมศักดิ์ รวมกับแถลงการณ์ของศูนย์กลางนิสิตฯ ถึงประชาชน เพื่อชี้แจงสถานการณ์และสนับสนุนรัฐบาลชุดใหม่
จนกระทั่งเวลา 18.40 น. วิทยุกรมประชาสัมพันธ์ได้ประกาศข่าวการลาออกจากราชการและการเดินทางออกนอกประเทศของถนอม-ประภาส หลังจากข่าวแพร่สะพัดออกไป ประชาชนต่างก็โห่ร้องยินดีและเริ่มทยอยกันกลับบ้าน


ประภาส-ณรงค์ ลี้ภัยการเมือง

The image “http://blogazine.prachatai.com/bz-admin/temp/saengdao_20071013_1.jpg” cannot be displayed, because it contains errors.


The image “http://www.2519.net/newweb/gallery_new/images/9/ThuDecember2003-11-21-37-big2.jpg” cannot be displayed, because it contains errors.

เมื่อสถานการณ์เริ่มสงบลง นายสัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์และวิทยุในเวลา 20.45 น. ถัดจากนั้นกรรมการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยก็ปราศรัยสดุดีวีรกรรมของประชาชนและขอให้ผนึกกำลังกันเพื่อพิทักษ์รักษาสิ่งที่ได้มาให้ยั่งยืนต่อไป
จากนั้นจอมพลประภาส พ.อ. ณรงค์ พร้อมครอบครัวและผู้ติดตามจึงได้เดินทางลี้ภัยการเมืองโดยเที่ยวบินพิเศษ มุ่งหน้าไปกรุงไทเป เกาะใต้หวัน เมื่อเวลา 21.47 น. ส่วนจอมพลถนอมนั้นเดินทางตามไปในวันรุ่งขึ้น เวลา 22.00 น.
ผลจากเหตุการณ์รุนแรงตลอดวันที่ 14-15 ตุลาคม 2516 ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตถึง 77 คน และบาดเจ็บอีก 857 คน

The image “http://www.bloggang.com/data/ployjub/picture/1175948654.gif” cannot be displayed, because it contains errors.

credit all of photos from www.manager.co.th
and all of old photos that I found in google

for more information :
บันทึกลับจากทุ่งใหญ่
http://www.geocities.com/tungyai_2516/


written by : Kotchakorn Sunthikhunakorn 513 1601 001


6 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สิ่งที่รัฐบาลสมัครทำและไม่ชอบธรรมสำหรับประชาชนชาวไทย

- แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เสียแดนให้เขมร

- พยายามแก้กฎหมายอุ้มทักษิณ และพรรคตัวเอง

- เอาแต่คนของตัวเอง คนมีปัญหามารุมตั้งกุมอำนาจรัฐ

- บริหารงบประมาณมุ่งแต่เลี้ยงฐานคนระบอบทักษิณ

- ตั้งเทคโนแครตระบอบทักษิณเข้ามา "ยึดแบงก์ชาติ"

- เพิกเฉย ละเลย และสนับสนุน บุคคลผู้จาบจ้วงสถาบันฯ อย่างเห็นได้ชัด

นี่ยังไม่รวมกับ คดีต่างๆ ในการคอร์รับชั่น ที่กำลังจะตามมาอีกหลายคดี แค่นี้ยังไม่เพียงพอ อีกหรือคะ
คุณอยากปล่อยให้คนแบบนี้มาบริหารเงินภาษี ที่คุณต้องจ่าย เงินที่จะได้มาใช้พัฒนาประเทศจริงๆ คนพวกนี้กลับเอาไปจัดแจงใช้จ่ายอย่างมีเงื่อนงำเป็นมูลค่ามหาศาล ถ้ายังปล่อยต่อไป ประเทศไทยคงหมดตัว...

สิ่งที่สมัคร, ทักสิน, และพรรคพลังประชาชนท่องคาถา จนติดปาก คือ " ผมมาจากการเลือกตั้ง" แต่การมาจากการเลือกตั้ง หมายถึง ผมจะทำอะไรก็ได้กับประเทศนี้ เงินของประเทศนี้ อย่างนั้นหรือ ?

คนที่ถูกเลือกมาเป็นรัฐบาล ต้องทำงานซื่อสัตย์ต่อชาติ
ต่อประชาชน มิใช่หรือ ?

คุณมีคำตอบให้กับเรื่องพวกนี้บ้างรึยัง...
ว่านี่แหล่ะ เป็นสาเหตุที่จะให้ประชาชนอดตาย ถาวร อย่างแน่นอน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า เป็น"ผู้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังเข้าสลายกลุ่มพันธมิตรฯ" ตามคำสั่งศาลแพ่งที่มีคำพิพากษาให้รื้อถอนเวทีที่มัฆวานรังสรรค์ โดยอ้างว่าตำรวจไม่มีอาวุธ ใช้มือเข้าสลายการชุมนุม ซึ่งขัดแย้งกับภาพข่าวที่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้ใช้กระบองทุบตีประชาชนและใช้อาวุธปืนจี้กลุ่มผู้ชุมนุมด้วย !!!!!!!!!!!!!!!!!

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
ทุกครั้งที่รัฐบาลยืนกรานไม่ลาออก
จะตามมาด้วยการนองเลือดเสมอ
และสุดท้ายรัฐบาลก็ต้องออกอยู่ดี
ไม่ว่า 14 ตุลา, พฤษภาทมิฬ
ทำไมสังคมไทยไม่เคยเรียนรู้จากประวัติศาสตร์
มันเป็นปัญหาทางจริยธรรมของนักการเมือง
ที่จะไม่มีวันแสดงสปิริตลาออก
เพราะแม้กระทั่งสำนึกว่ามันเป็นความผิดก็ยังไม่มี
รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังหน้ามืดตามัว
ลองดูตัวละครเหล่านี้สิ-บรรหาร, เสนาะ, ฯลฯ
มันก็กลุ่มเดียวกับที่ตะบี้ตะบันอุ้มสุจินดาเป็นนายกจนเกิดการนองเลือด
ต้องรอให้นองเลือดก่อนหรือถึงจะสำนึก
ถุย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไอ้หมักมันไม่ไปไหนง่ายๆหรอก เพราะไอ้ทักษิณมอบหมายงานไว้ให้แก้กฎหมายให้ได้ก่อน ไม่งั้นไอ้หน้าเหลี่ยมหลุดโคจรได้ตายอยู่นอกประเทศ สมใจพ่อแม่พี่น้องแน่นอน...
หุหุ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

N= Nasty
B= Buffalo
T= Talks

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เมื่อไรที่ไอ้หมักตาย วันเผาศพมันผมจะไปร่วมครับ แล้วเอาตุ๊กตานกกระเรียน กับตุ๊กตาแมววางหน้าศพมันด้วย