วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

นักวิชาการแนะทั้งสองฝ่ายถอยคนละครึ่งก้าวเพื่อประเทศชาติ

สำนักข่าวไทย 28 ส.ค. - นักวิชาการด้านกฎหมายชี้ศาลออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากไปกว่านี้ ไม่ใช่คำสั่งคุ้มครองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พร้อมแนะทั้งฝ่ายรัฐบาลและพันธมิตรฯ ถอยคนละครึ่งก้าว เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฎหมาย ให้ความเห็นกรณีตำรวจขอศาลอนุมัติหมายจับ 9 แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ โดยเฉพาะตามมาตรา 113 และ 114 ซึ่งเป็นข้อหากบฏต่อแผ่นดิน มีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต ว่า การตั้งข้อหาสามารถตั้งได้ หากการกระทำไปพ้องกับบทบัญญัติตามกฎหมายสามารถยื่นฟ้องได้ ในกรณีนี้ การกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ไปพ้องกับมาตรา 113 และ 114 จึงได้มีการยื่นฟ้อง แต่ก็ยังไม่ได้มีคำสั่ง หรือคำตัดสินของศาล ออกมาว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นกบฏ หรือซ่องสุมกำลัง การออกคำสั่งบังคับชั่วคราว หรือคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว นี้เพื่อคุ้มครองสถานการณ์โดยรวมไม่ให้เกิดความเสียหายมากไปกว่านี้ โดยคำสั่งนี้ ไม่ใช่คำสั่งคุ้มครองรัฐบาล หรือคุ้มครองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
สำหรับกรณีของพันธมิตรฯ ต้องดูว่าเทียบเคียงได้กับกรณีเป็นกบฏ หรือไม่ ถ้าเทียบเคียงได้ก็ต้องมีมูล และต้องนำสืบไปตามมูลนั้น หากนำสืบแล้วแจ้งว่ามูลความผิดนั้นเป็นการกระทำความผิดจริง ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้กระทำผิดจริงก็ต้องรับโทษไปตามนั้น แต่อย่ามองตรงโทษสูงสุดว่า ประหารชีวิต เพราะจะมีการอภัยโทษต่อไปส่วนการยื่นอุทธรณ์ศาลแพ่งของพันธมิตรฯ หากยื่นไปแล้วศาลพิพากษายืน ต้องถือเป็นเด็ดขาด พันธมิตรฯ ต้องเคลื่อนออกจากทำเนียบฯ ทันที แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อศาลออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวแล้วต้องปฏิบัติตามทันที ไม่ต้องรอจนอุทธรณ์เสร็จ ดร.เจษฎ์ แนะทางออกของสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ เมื่อมีหมายออกมาตามกฎหมาย ก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น และไปตั้งมั่นอยู่ในที่ที่กฎหมายรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ทำได้ อย่างไรก็ตาม ควรจะถอยกันคนละครึ่งก้าว เพื่อให้ทุกอย่างสงบลงได้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน


โพสต์โดย: น.ส.ชาลินี เอี่ยมโอน ID:5131601043

ไม่มีความคิดเห็น: