วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

จัดตำรวจคุมปิดประกาศคำสั่งศาล"เด็กโกวิท"กร้าว!ใครขวางมีความผิด





จัดตำรวจคุมปิดประกาศคำสั่งศาล"เด็กโกวิท"กร้าว!ใครขวางมีความผิด

เจ้าพนักงานบังคับคดี เดินทางปิดประกาศคำสั่งศาลแพ่งคุ้มครองชั่วคราวให้พันธมิตรออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยมีตำรวจคอยรักษาความปลอดภัย"เด็กโกวิท"กร่างปิดประกาศเสร็จ ต้องออกจากทำเนียบทันที พร้อมเตือนใครขวาง ถือว่ากระทำความผิดด้วย


วันนี้(29 ส.ค.)ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เวลา 09.30 น.นายศุภชัย ใจสมุทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะตัวแทนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผย เจ้าพนักงานบังคับคดีที่ได้รับแต่งตั้งโดยศาลแพ่ง ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้แทนโจทก์ ถึงเรื่องการนำประกาศจากศาลแพ่งที่สั่งคุ้มครองชั่วคราว ไปปิดประกาศบริเวณทำเนียบรัฐบาล โดยจะนำไปปิดทั้งหมดรวม 5 จุด ประกอบด้วย สะพานมรุยเชษฐ์ สะพานมัฆวานรังสรรค์ แยกสวนมิสกวัน ลานพระบรมรูปทรงม้า และสะพานอรทัย โดยการเดินทางไปติดประกาศในครั้งนี้ จะมีเจ้าพนักงานบังคับคดีประมาณ 30 คน กระจายไปตามจุดต่างๆเพื่อปิดประกาศ ซึ่งแต่ละจุดจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 150 นาย คอยรักษาความปลอดภัย นอกจากนั้น จะมีตัวแทนฝ่ายโจทก์ ร่วมเดินทางไปด้วย นายศุภชัย กล่าวว่า หลังจากปิดประกาศแล้ว ก็จะมีการอ่านประกาศต่อสื่อมวลชน ซึ่งเมื่ออ่านประกาศแล้ว ก็ถือว่าได้ทำตามขั้นตอนของกฎหมายเสร็จสิ้นแล้ว และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอผลอุทธรณ์ต่อศาลของฝ่ายจำเลย หากไม่ปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่ต้องรายงานกลับไปที่ศาลเพื่อออกหมายจับต่อไป พร้อมย้ำว่า ไม่เฉพาะแกนนำ 6 คนเท่านั้น แต่ทุกคนจะต้องออกนอกพื้นที่ และเตือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรฯ อย่ากระทำการขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือ ฉีกประกาศ ไม่เช่นนั้นจะถือว่ามีความผิดด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าภายในกองทัพภาคที่ 1 มีการจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้พร้อม เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่อาจจะเกิดขึ้น ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เดินทางไปทำการปิดประกาศ และหากกลุ่มผู้ชุมนุม ทำการขัดขวาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ มีกลุ่มพันธมิตร จำนวนหนึ่ง รวมตัวกัน เพื่อวางแนวป้องกัน ไม่ให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่บังคับคดี นำหมายศาลเข้าไปติดภายในทำเนียบรัฐบาล ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่บังคับคดีรวม 30 นาย จะกระจายกันออกปิดคำสั่งศาลบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลรวม 5 จุด โดยแต่ละจุดที่จะไปปิดประกาศ จะมีกำลังตำรวจจุดละ 150 นายคอยคุ้มกัน ทั้งนี้ เป็นที่คาดการณ์กันว่า เจ่าหน้าที่จะไม่เข้าไปปิดประกาศภายในทำเนียบรัฐบาลแต่อย่างใด ส่วนที่บริเวณแยกสวนมิสักวัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 2 กองร้อย นำโดย พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รอง ผบช.น.และพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 ได้เข้าไปทำการรื้อเต้นส์ขายเสื้อ พร้อมยกจอมอร์นิเตอร์ขนาดใหญ่ออกจากพื้นที่ โดยแจ้งให้ รถเข็นที่ขายน้ำอยู่บริเวณดังกล่าวออกจากพื้นที่ ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ ที่อยู่บริเวณดังกล่าว ต่างเดินเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล จากนั้น เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีได้ทำการปิดหมาย ตามบริเวณเสาเต้นส์ รอบสวนแยกมิสักวัน ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการยกน้ำที่วางขวางทาง ออกไปไว้ข้างทาง พร้อมกับพยายามเข็นรถ 6 ล้อของกองทัพธรรม แต่ไม่สามารถเข็นได้ อย่างไรก็ตาม ขณะที่เข้าทำการปิดหมาย ตำรวจได้ใช้รถกระบะ เปิดเสียงเพลงปลุกใจเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอดเวลา โดยมีพันธมิตรบางส่วนที่อยู่บริเวณดังกล่าว ต่างประนามการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรงเกิดขึ้น ล่าสุด ตำรวจภายใต้การนำของพล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รองผบช.น. พร้อมกำลังจำนวนหนึ่ง ได้พาเจ้าหน้าที่บังคับคดี เดินทางไปปิดหมายศาลที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ โดยเจ้าหน้าที่บังคับคดีได้ปิดไว้ที่บริเวณเสาไฟฟ้าระหว่างสะพานทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งนี้ พล.ต.ต.พงษ์สันต์ ได้เจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯที่รักษาการณ์อยู่บริเวณดังกล่าวว่า ตำรวจขอคสวามร่วมมือ ให้เจ้าหน้าที่บังคับคดีนำหมายมาปิดประกาศ โดยตำรวจเพียงแค่มาคอยอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่บังคับคดีเท่านั้น ขอความร่วมมือให้กลุ่มพันธมิตรฯอยู่ในความสงบ และเมื่อเจ้าหน้าที่บังคับคดีปิดหมายเรียบร้อยแล้ว ตำรวจก็จะเดินทางกลับในทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่บังคับคดีทำการปิดหมายที่เสาไฟฟ้านั้น กลุ่มพันธมิตรฯได้ทำการตะโกนโห่ร้องเป็นระยะๆ ขณะเดียวกันที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบก.ตปพ. นำกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง พร้อมเจ้าหน้าที่บังคับคดี ปิดหมายศาล แต่ปรากฏว่า มีเครื่องกีดขวางอยู่ ทงพล.ต.ต.จักรทิพย์ จึงสั่งให้ใช้เครื่องตัดเหล็กตัดเครื่องกีดขวาง ด้านถนนพิษณุโลก ตั้งแต่ตีนสะพานชมัยมรุเชษฐไปจนถึงแยกนางเลิ้ง หน้าสนามม้า ปรากฏว่า มีกำลังตำรวจตชด.ประมาณ 500 นาย และกำลังตำรวจปราบจราจลกว่า 1,000 นาย เข้าประจำการณ์เตรัยมพร้อมเต็มถนนไปหมด เมื่อผู้สื่อข่างสอบถามพล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รองผบช.น.ได้รับคำตอบว่า กำลังทั้งหมดมีประมาณ 5 กองร้อย และเมื่อถูกถามต่อว่า ตำรวจเตรียมกำลังมาเพื่อที่จะสลายกลุ่มพันธมิตรใช่หรือไม่ พล.ต.ต.พงษ์สันต์ตอบว่า ตำรวจรอคำสั่งเท่านั้น






โพสโดย: นางสาว ศิริกานต์ ทองเครือมา ID:5131601184

3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

การเมืองของบ้านเราจะเป็นไปในทิศทางไหนเป็นเรื่องที่เราตอ้งติดตามและรับรู้ข่าวสารใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา
ว่าในตอนนี้บ้านเมืองของเรานั้นจะมีแนวโน้มไปทางไหน เราควรที่จะเกาะติดข่าวสาร เพราะตอนนี้บ้านเมืองของเรามีความสับสนวุ่นวายมาก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เราควรติดตามดูว่ารัฐจะแก้ไข

ปัญหานี้ยังไง ออกมาในรูปแบบไหน

ผลสรุปของปัญหาเป็นอย่างไร

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตอนนี้สถานการการเมือง
ของเราอยู่ในภาวะสับสน
วุ่นวายแล้วเมื่อเกิดเหตุการณ์
อย่างนี้เกิดขึ้นพันธมิคร
จะทำการอย่างไรต่อไป